เจ้าหน้าที่นำรายชื่อและลักษณะของยานพาหนะต้องสงสัยที่อาจถูกนำมาประกอบระเบิด รวมถึงผู้ต้องสงสัยในคดีความมั่นคง มาติดตั้งที่ด่านท่าฉัตรไชย ซึ่งเป็นประตูด่านแรกก่อนเข้าสู่ตัวเมืองภูเก็ตเพื่อเฝ้าระวังเหตุรุนแรง ก่อนเริ่มฤดูกาลท่องเที่ยวหรือไฮซีซั่นแรกหลังสิ้นเสียงระเบิดที่หาดป่าตอง เมื่อวันที่ 12 ส.ค.ที่ผ่านมา
ตำรวจภูธรป่าตองและตำรวจท่องเที่ยวดูแลความปลอดภัยให้นักท่องเที่ยวตลอดแนวริมหาด โดยเฉพาะบริเวณถนนหน้าป้อมยามบางลา พื้นที่ซึ่งเคยเกิดเหตุระเบิด โดยผู้ประกอบการหลายคนบริเวณนี้ กล่าวว่า ฝันร้ายในครั้งนั้นทำให้ชาวบ้านและผู้ประกอบการต้องหาหันมาช่วยกันดูแลความปลอดภัยมากขึ้น เพื่อสร้างความมั่นใจให้นักท่องเที่ยวที่เดินทางเข้ามาเที่ยวเพิ่มขึ้นเกือบ 2 เท่าตัวในช่วงไฮซีซั่น
ส่วนการติดตามผู้ก่อเหตุ แม้ว่านายมูฮัมหมัด มูฮิ หนึ่งในผู้ต้องหาลอบวางระเบิดและวางเพลิงใน จ.ภูเก็ต จะปฎิเสธไม่ขอเดินทางมาทำแผนประกอบคำรับสารภาพ เพราะไม่มั่นใจในความปลอดภัยของครอบครัวใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ซึ่งไม่มีส่วนรู้กับเหตุการณ์ แต่คำรับสารภาพของผู้ต้องหาต่อหน้าตุลาการ ก็เป็นประโยชน์ต่อการดำเนินคดี
นอกจากนี้เจ้าหน้าที่ยังขอหมายจับนายอับดุลสตอปา สุหลง ชาวปัตตานี ในฐานความผิดร่วมกัน คือ มีหรือใช้วัตถุระเบิด ร่วมกันครอบครองระเบิดโดยผิดกฎหมาย ร่วมกันวางเพลิงเผาทรัพย์ และฐานเป็นอั้งยี่ เช่นเดียวกับเหตุลอบวางเพลิงร้านจำหน่ายเสื้อผ้า ต.อ่าวนาง อำเภอเมืองกระบี่ จ.กระบี่ ซึ่งเกิดขึ้นในวันเดียวกัน เจ้าหน้าที่เตรียมขออนุมัติหมายจับเพิ่มเติมอีก 1 คน หลังจากก่อนหน้านี้ได้ออกหมายจับนายซอบรี หลำโสะ ชาวตำบลบ้านเปียน อ.สะบ้าย้อย จ.สงขลา
ทั้งนี้ เหตุลอบเผาและลอบวางระเบิดในพื้นที่ภาคใต้ระหว่างวันที่ 12-13 ส.ค.ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ได้ออกหมายจับแล้ว รวม 14 หมายจับ ผู้ต้องหา 10 คน ควบคุมได้แล้ว 2 คนส่วนที่เหลืออยู่ระหว่างการติดตามตัว ซึ่งส่วนใหญ่เป็นเครือข่ายผู้ต้องหาในคดีความมั่นคงในจังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยเฉพาะเครือข่ายจังหวัดปัตตานี ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการขยายผล