นายวีระ โรจน์พจนรัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม กล่าวว่า วันนี้ ( 16 พ.ย. 2559)ที่ประชุมคณะกรรมการส่งเสริมและรักษามรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรม มีมติเห็นชอบเสนอการประโคมย่ำยาม ในงานพระราชพิธีพระบรมศพ หรือพระศพตามโบราณราชประเพณี เข้าสู่กระบวนการขึ้นบัญชีรายการมรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรมของไทย
โดยการประชุมครั้งนี้ ได้เชิญผู้ทรงคุณวุฒิ ศิลปินแห่งชาติ ระดมความคิดเห็นเกี่ยวกับแนวทางการขึ้นทะเบียนประโคมย่ำยามเป็นมรดกทางวัฒนธรรม ซึ่งการประโคมย่ำยามคือการบรรเลงดนตรีเพื่อสักการบูชาและบอกเวลาปฏิบัติงานโดยมีระยะเวลาห่างกันทุก 3 ชั่วโมง ซึ่งเป็นพิธีที่สืบทอดมาตั้งแต่สมัยอยุธยาจนถึงปัจจุบัน
ทั้งนี้ ในงานพระราชพิธีสวดพระอภิธรรมพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ทางกรมศิลปากร ได้รับมอบหมายให้นำวงปี่พาทย์นางหงส์เครื่องใหญ่ ประโคมย่ำยามร่วมกับวงประโคมของสำนักพระราชวังจนครบ 100 วันโดยเริ่มตั้งแต่วันที่ 14 ตุลาคม ซึ่งแต่ละวันจะมีการประโคมย่ำยามทุก 3 ชั่วโมง ส่วนเพลงที่วงปี่พาทย์นางหงส์เครื่องใหญ่ ใช้บรรเลงในงานพระราชพิธีสวดพระอภิธรรมพระบรมศพ เช่น เพลงพราหมณ์เก็บ หัวแหวน เพลงกระบอกทอง เพลงแมลงวันทอง เป็นต้น
นายวีระ บอกอีกว่า ที่ประชุมมอบหมายให้กรมส่งเสริมวัฒนธรรม สวธ.ไปศึกษาและรวบรวมข้อมูลการประโคมย่ำยาม เพื่อเข้าสู่กระบวนการการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรมของประเทศไทย
ส่วนการเสนอขึ้นทะเบียนมรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ต่อยูเนสโกในอนาคตมอบหมายให้ไปศึกษาแนวทางและใช้เป็นกรณีศึกษาของประเทศเกาหลีใต้ ญี่ปุ่นและเวียดนาม ทั้งนี้ การดำเนินการเสนอขึ้นทะเบียน จะต้องทำหนังสือขอพระบรมราชานุญาตตามลำดับขั้นตอน