ตร.มาเลเซียบุกค้นสำนักงานกลุ่มเบอร์เสะห์-จับแกนนำ
เมื่อช่วงบ่ายวันนี้ (18 พ.ย.2559) ตำรวจบุกค้นสำนักงานของกลุ่มเบอร์เสะห์ ซึ่งเป็นแกนนำการประท้วงในวันพรุ่งนี้ (19 พ.ย.2559) โดยยึดทรัพย์สินไปบางส่วน พร้อมจับกุมแกนนำ ด้านสำนักงานข้าราชการของมาเลเซียประกาศห้ามเจ้าหน้าที่รัฐเข้าร่วมการชุมนุมอย่างเด็ดขาด มิฉะนั้นอาจถูกลงโทษทางวินัย ตั้งแต่ลดเงินเดือนไปจนถึงถูกไล่ออก
เลขาธิการของกลุ่มเบอร์เสะห์ 2.0 โพสต์ข้อความในทวิตเตอร์ว่า เมื่อช่วงเย็นที่ผ่านมาตำรวจได้บุกตรวจค้นสำนักงานและยึดทรัพย์สินไปส่วนหนึ่ง โดยอ้างกฎหมายว่าด้วยการกระทำที่เป็นภัยต่อประชาธิปไตย พร้อมจับกุมนางมาเรีย ชิน อับดุลลาห์ แกนนำของกลุ่มไปสอบสวน
ขณะที่สำนักงานข้าราชการของมาเลเซียประกาศห้ามเจ้าหน้าที่รัฐเข้าร่วมการชุมนุมอย่างเด็ดขาด ไม่ว่าจะเป็นของฝ่ายต่อต้านหรือฝ่ายสนับสนุนรัฐบาลก็ตาม หากพบจะถูกลงโทษทางวินัย ตั้งแต่การถูกลดเงินเดือนไปจนถึงถูกไล่ออก พร้อมระบุว่าการชุมนุมของกลุ่มเบอร์เสะห์ 5.0 ในวันพรุ่งนี้เป็นการชุมนุมที่ผิดกฎหมาย เนื่องจากสำนักงานตำรวจไม่อนุญาตให้จัดการชุมนุม
สำหรับการชุมนุมในวันพรุ่งนี้ถือเป็นครั้งที่ 5 ของกลุมเบอร์เสะห์ โดยมีเป้าหมายเพื่อเรียกร้องให้มาเลเซียมีรัฐบาลที่สะอาด โปร่งใส สามารถตรวจสอบได้ รวมถึงเรียกร้องให้นายนาจิบ ราซัค นายกรัฐมนตรีของมาเลเซียลงจากตำแหน่ง เพื่อเปิดทางให้มีการสอบสวนกรณีที่นายนาจิบ ถูกกล่าวหาว่ายักยอกเงินจากกองทุนเพื่อการพัฒนาเศรษฐกิจระยะยาว หรือ 1MDB โดยมีข้อมูลว่านายนาจิบโอนเงินประมาณ 700 ล้านดอลลาร์สหรัฐ จากกองทุนเข้าบัญชีส่วนตัว โดยการชุมนุมจะเริ่มเวลา 10.00 น.ตามเวลาท้องถิ่น ซึ่งตรงกับเวลา 09.00 น.ตามเวลาในประเทศไทย
ขณะที่การประท้วงในวันพรุ่งนี้ มหาธีร์ มูฮัมหมัด อดีตนายกรัฐมนตรีจะเข้าร่วมการประท้วงอย่างเต็มตัวเป็นครั้งแรก แต่สิ่งหนึ่งที่หลายฝ่ายกังวลสำหรับการประท้วงในวันพรุ่งนี้ คืออาจเกิดเหตุปะทะกันระหว่างกลุ่มเสื้อแดง ซึ่งเชื่อว่าได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาลและกลุ่มเบอร์เสะห์ ซึ่งเป็นกลุ่มเสื้อเหลือง เนื่องจากก่อนหน้านี้ผู้นำกลุ่มเสื้อแดงประกาศจะขัดขวางการประท้วงของกลุ่มเบอร์เสะห์ทุกวิถีทาง แม้จะเกิดเหตุนองเลือดก็ตาม
แนวคิดกลุ่มเบอร์เสะห์ 5.0 กับการชุมนุมประท้วงรัฐบาลกลุ่มอัมโน่
ตลอดระยะเวลาเกือบ 60 ปีที่ผ่านมา มาเลเซียอยู่ภายใต้การปกครองของพรรครัฐบาลกลุ่มอัมโน่มาโดยตลอด การที่อยู่ในอำนาจยาวนานเกินไปทำให้เกิดปัญหาคอร์รัปชั่นอย่างรุนแรง ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญที่นำมาสู่การประท้วงใหญ่ในครั้งนี้
กลุ่มเบอร์เสะห์ 5.0 เริ่มเดินสายไปทั่วประเทศตั้งแต่เดือนตุลาคม 2559 เพื่อให้ข้อมูลกับประชาชนและเชิญชวนให้เดินทางมาร่วมการชุมนุมใหญ่ที่จะมีขึ้นในวันที่ 19 พ.ย.2559 ที่กรุงกัวลาลัมเปอร์ โดยศูนย์กลางของการชุมนุมอยู่ที่จตุรัสเมอร์เดก้า ซึ่งเป็นสถานที่ที่มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์ของมาเลเซีย
มาเรีย ชิน อับดุลลาห์ เป็นแกนนำการชุมนุมเบอร์เสะห์ 2.0 เมื่อวันที่ 9 ก.ค.2554 ซึ่งในครั้งนั้นทางกลุ่มได้เรียกร้องให้มีการเลือกตั้งที่เสรีและเป็นธรรม แต่สำหรับการชุมนุมใหญ่ที่กำลังจะเกิดขึ้น มุ่งเป้าไปที่ประเด็นการคอร์รัปชั่นเพิ่มเติม หลังเกิดเรื่องอื้อฉาวกับกองทุน 1MDB
มาเรีย ระบุว่าข้อเรียกร้องของเบอร์เสะห์ 5.0 เป็นข้อเรียกร้องเดียวกับเบอร์เสะห์ 4.0 ที่ต้องการการเลือกตั้งที่เสรีและยุติธรรม ต้องการให้การคอร์รัปชั่นยุติลงและต้องการรัฐบาลที่มีธรรมาภิบาล แต่การเคลื่อนไหวในครั้งนี้มีราคาที่ต้องจ่าย เนื่องจากมาเรียเคยถูกตำรวจจับในข้อหาแจกใบปลิว ตัวเธอและบุตรชาย 3 คนเคยถูกขู่ฆ่า แต่เมื่อแจ้งตำรวจกลับไม่มีความคืบหน้าใดๆ ซึ่งแม้จะต้องเผชิญกับความลำบากมากมาย แต่มาเรียยืนยันว่าการประท้วงในครั้งนี้เป็นสิทธิ์ของประชาชนที่ต้องร่วมมือกันปกป้องประเทศ
มาเรียขอให้ชาวมาเลเซียอย่าหวาดกลัวและควรที่จะมาร่วมชุมนุมกันให้มากๆ เพราะประชาชนมีสิทธิ์ที่จะประท้วง ถ้าหากหยุดประท้วงก็จะสูญเสียประเทศนี้ไป เช่นเดียวกับไซเอ็ด ซัดดิค ผู้นำกลุ่มเยาวชนของพรรคเบอร์ซาตู ที่ต้องการให้คนรุ่นใหม่ออกมาแสดงพลัง แสดงความเห็นเพื่ออนาคตของประเทศ
ไซเอ็ด เชื่อว่าในอีก 5-10 ปีข้างหน้า ช่วงเวลานี้จะเป็นช่วงสำคัญในประวัติศาสตร์ของมาเลเซียที่เกิดการเปลี่ยนแปลงโดยพลังประชาชน อย่างที่เคยเกิดขึ้นในฟิลิปปินส์และเกาหลีใต้ นี่คือช่วงเวลาที่จะกำหนดอนาคตของคนรุ่นลูก รุ่นหลาน เราไม่สามารถยืนดูอยู่เฉยๆได้อีกต่อไป นี่คือการต่อสู้เพื่ออนาคต คนรุ่นใหม่จะต้องออกมาแสดงความคิดเห็น อนาคตอยู่ในมือของทุกคนและไม่สามารถฝากไว้กับนักการเมืองได้อีกต่อไป ไซเอ็ดยอมรับว่าการต่อสู้ในครั้งนี้จะต้องเริ่มต้นตั้งแต่วันนี้ เพื่อปกป้องประเทศและอนาคตของชาวมาเลเซีย