"หม่อง ทองดี" ซึ่งมีพ่อแม่เป็นชาวไทยใหญ่ที่อพยพจากรัฐฉานมาอยู่ใน จ.เชียงใหม่ ตั้งแต่ปี 2538 เขากลายเป็นเด็กชายที่เป็นที่รู้จักทั่วประเทศในปี 2551 เมื่อเป็นผู้ชนะเลิศในการแข่งขับเครื่องบินกระดาษพับชิงแชมป์ประเทศไทย รุ่นอายุไม่เกิน 12 ปี จัดโดยศูนย์เทคโนโลยีโลหะและวัสดุแห่งชาติ (เอ็มเทค) สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี หม่องจึงได้เป็นตัวแทนประเทศไทยไปแข่งขันเครื่องบินพับกระดาษที่ประเทศญี่ปุ่น
เพื่อส่งตัวหม่องไปเป็นตัวแทนประเทศไทยในการแข่งขันที่ญี่ปุ่น ทางโรงเรียนบ้านห้วยทราย อ.เมืองเชียงใหม่ จ.เชียงใหม่ ซึ่งเป็นโรงเรียนของหม่องจึงได้ทำหนังสือถึงกระทรวงมหาดไทยเพื่อขอให้หม่องเดินทางไปต่างประเทศ แต่กระทรวงมหาดไทยตอบว่าหม่องเดินทางออกไปจากประเทศไทยได้ แต่จะกลับเข้ามาในประเทศไทยมิได้อีก เนื่องจากสิทธิอาศัยในประเทศไทยจะสิ้นสุดลงในทันทีที่ออกไปจากประเทศไทย
การไม่อนุญาตให้หม่องเป็นตัวแทนประเทศประเทศไทยไปแข่งขันเครื่องบินกระดาษพับนำมาสู่การฟ้องร้องรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยต่อศาลปกครอง แต่ก่อนที่ศาลจะมีคำสั่ง กระทรวงมหาดไทยก็ได้มีหนังสือแจ้งอนุญาตให้หม่องเดินทางไปแข่งขันที่ประเทศญี่ปุ่นได้ และส่งตัวหม่องไปทำเอกสารเดินทางที่กระทรวงการต่างประเทศไทย เพื่อใช้เป็นเอกสารแสดงตนในต่างประเทศ และใช้ในการขอวีซ่าเข้าประเทศญี่ปุ่น พ่อแม่ของหม่องซึ่งเป็นผู้แทนในการฟ้องคดีจึงได้ถอนฟ้องรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย
ปัจจุบันหม่องอายุ 19 ปี สำเร็จการศึกษาระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 และกำลังศึกษาอยู่ที่ กศน.หนองแขม โดยใช้ทุนทรัพย์ของตัวเอง เขายังคงมีสถานะเป็นบุคคลไร้สัญชาติ ขณะนี้เขาเป็นครูฝึกโดรนของสมาคมกีฬาเครื่องบินจำลองและวิทยุบังคับ
เมื่อวานนี้ (22 พ.ย.) มีกระแสข่าวที่สร้างความดีใจให้กับหม่อง เมื่อ ดร.อาทิตย์ อุไรรัตน์ อธิบการบดี ม.รังสิต โพสต์เฟซบุ๊กเสนอให้ทุนการศึกษาแก่หม่องเพื่อเข้าศึกษาที่วิทยาลัยวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยรังสิต ซึ่งมีการสอนในสาขาที่หม่องอาจสนใจ เช่น วิศวกรรมซ่อมบำรุงอาศยาน เทคโนโลยีซ่อมบำรุงอากาศยาน เทคโนโลยีรถไฟระบบราง หรือ เครื่องกล ยานยนต์
เมื่อทราบข่าว หม่องพยายามโทรศัพท์ติดต่อ ดร.อาทิตย์ แต่ติดต่อไม่ได้ จึงมีการประสานไปยังรองอธิการบดีมหาวิทยาลัยรังสิต ซึ่งเบื้องต้นได้นัดหมายให้หม่องมาพบผู้บพูดคุยถึงเรื่องรายละเอียดต่างๆ ที่มหาวิทยาลัยในวันพรุ่งนี้ (24 พ.ย.)