วันนี้ (14 ธ.ค.2559) นายศุภเดช นิแสนภูมินิเทศ หัวหน้าฝ่ายอำนวยการรักษาการในตำแหน่งหัวหน้าสำนักงานสภาเกษตรกรจังหวัดพิจิตร ลงพื้นที่เพื่อทำกิจกรรมแนะนำส่งเสริมเกษตรกร ในการดำรงชีพตามแนวเศรษฐกิจพอเพียง โดยพบนางอรัญญา จันทร์กลิ่น นำโรงสีข้าวเคลื่อนที่มาตระเวนออกรับจ้างแปรรูปข้าวเปลือกเป็นข้าวสารให้ชาวนา
นางอรัญญา จันทร์กลิ่น เปิดเผยว่า ประกอบอาชีพทำรถสีข้าวเคลื่อนที่มานานเกือบ 20 ปีแล้ว โดยลงทุนในการทำโรงสีข้าวเคลื่อนที่ใช้เงินลงทุนเกือบ 500,000 บาท โดยตระเวนออกรับจ้างแปรรูปข้าวเปลือกเป็นข้าวสารให้กับชาวนาที่ปลูกข้าวแล้วต้องการสีข้าวเปลือกเป็นข้าวสารเก็บไว้กินไว้ขายตามแนวเศรษฐกิจพอเพียง แต่ปรากฏว่าช่วงนี้ราคาข้าวหอมมะลิตกต่ำเหลือเพียงตันละ 7,000-8,000 บาท ทำให้ชาวนาเกิดการฉุกคิดเปลี่ยนวิถีชีวิตจากการทำนาขายข้าวเปลือกหันมาเป็นชาวนาปลูกข้าวเพื่อขายข้าวสาร จึงได้ว่าจ้างรถสีข้าวเคลื่อนที่ไปทำการแปรรูปข้าวเปลือกเป็นข้าวสาร
ทั้งนี้ จะนำรถสีข้าวเคลื่อนที่ไปให้บริการกับชาวนาฟรี แต่ขอรำกับปลายข้าวเป็นค่าบริหารจัดการหรือค่าแรง โดยข้าวเปลือก 1 ตัน หรือ 1,000 กิโลกรัม จะสีเป็นข้าวสารได้ 600 กิโลกรัม ถ้านำไปขายก็จะได้ราคากิโลกรัมละ 25-30 บาท หรือนำมาเปรียบเทียบกับราคาข้าวเปลือกก็จะมีรายได้ 15,000 บาทต่อตัน โดยเฉพาะใกล้ช่วงเทศกาลปีใหม่นี้กระแสนิยมซื้อข้าวสารเป็นของขวัญรวมถึงลูกหลานชาวนาที่ไปทำงานต่างจังหวัดจะเดินทางกลับบ้านในทุกครอบครัวของชาวนาจึงเร่งสีข้าวสารเพื่อจะมอบให้กับลูกหลานหอบกลับไปหุงกินในเมืองหลวง จึงทำให้ช่วงนี้ เป็นยุคทองของโรงสีข้าวเคลื่อนที่
นางอรัญญา กล่าวว่า ช่วงนี้ออกตระเวนสีข้าวตั้งแต่เวลา 07.00-21.00 น. โดยทำงานกับสมาชิกในครอบครัว 4-5 คน ในแต่ละวันสีข้าวเปลือกเป็นข้าวสารได้ 5-6 ตัน ระยะทางที่รับงานไกลสุด คือ 40-50 กิโลเมตร โดยอยากให้ชาวนาทุกคนเปลี่ยนวิธีคิดหันมาปลูกข้าวเกษตรอินทรีย์ไม่ใช้สารเคมีแล้วสีข้าวเก็บไว้กินเอง หรือเป็นชาวนาขายข้าวสารดีกว่าเป็นชาวนาที่ขายข้าวเปลือกให้เถ้าแก่โรงสี เพราะจะทำให้มีรายได้เพิ่มขึ้นเกือบ 1 เท่าตัว