วันนี้ (15 ธ.ค.2559) ผู้สื่อข่าวรายงาน ความคืบหน้ากรณีเจ้าหน้าที่ด่านศุลกากร จ.หนองคาย สกัดจับรถบรรทุกเนื้อเถื่อน ใน อ.หนองหาน จ.อุดรธานี 2 คัน น้ำหนักรวมกว่า 8 ตัน โดยผู้ต้องหารับสารภาพว่าเตรียมไปส่งให้ลูกค้า ในจ.อุดรธานี ขณะที่ เจ้าหน้าที่เชื่อเป็นกลุ่มขบวนการเดียวกันกับที่จับได้ที่ อ.สว่างแดนดิน จ.สกลนคร เมื่อ 1 เดือนก่อน เพราะใช้เส้นทางลำเลียงสินค้าบนเส้นทางเดียวกัน
นายประยุทธ์ มณีโชติ ผู้อำนวยการสำนักงานศุลกากรภูมิภาคที่ 2 เปิดเผยว่า ตั้งแต่เดือน ธ.ค.2559-ก.พ.2560 ได้ตั้งชุดเฉพาะกิจขึ้นมาปราบปรามสินค้าที่ลักลอบนำเข้าจากประเทศเพื่อนบ้านเป็นกรณีพิเศษ โดยพุ่งเป้าไปที่การลักลอบนำเข้ากระเทียมเถื่อน และเนื้อเถื่อนเพราะเป็นเครือข่ายที่ใหญ่ และมีกลุ่มผลประโยชน์เข้ามาเกี่ยวข้องจำนวนมาก
ขบวนการค้าเนื้อเถื่อนในภาคตะวันออกเฉียงเหนือใช้ช่องว่างของอนุสัญญาบาร์เซโลน่าที่มีข้อตกลงร่วมกันระหว่างประเทศไทยและประเทศลาว ที่ให้สิทธิขนสินค้าผ่านประเทศไทย เนื่องจากประเทศลาวไม่มีชายฝั่งติดทะเล หรือแลนด์ล็อก ขนเนื้อจากอินเดียหรือบังคลาเทศ มายังท่าเรือแหลมฉบังและลำเลียงไปยังประเทศเพื่อนบ้าน ผ่านสะพานไทย-ลาว ทั้ง 3 แห่ง ก่อนจะลักลอบส่งเนื้อข้ามแม่น้ำโขงเข้ามาขายในประเทศไทยอีกครั้ง