จากสถานการณ์เศรษฐกิจโลกที่ดีขึ้น ราคาน้ำมันที่สูงขึ้น ประกอบกับการปรับขึ้นดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ ทำให้ น.ส.พิมพ์ชนก วอนขอพร รองผู้อำนวยการสำนักนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า กระทรวงพาณิชย์ ระบุว่า ส่งออกไทยเดือนพฤศจิกายน 2559 ขยายตัวร้อยละ 10.2 ซึ่งสูงสุดในรอบ 9 เดือน คิดเป็นมูลค่ากว่า 6.5 หมื่นล้านบาท นำเข้าขยายตัวร้อยละ 2.1 คิดเป็นมูลค่ากว่า 6.1 หมื่นล้านบาท เกินดุลประมาณ 4.6 หมื่นล้านบาท
โดยสินค้าอุตสาหกรรมกลับมาฟื้นตัว ทั้งเครื่อจักรกล ส่วนประกอบเม็ดพลาดสติก ผลิตภัณฑ์ยางและอุปกรณ์กึ่งตัวนำทรานซิสเตอร์ ขณะเดียวกันสินค้าเกษตรที่ขยายตัวดี เช่น ข้าว ยางพารา และผลิตภัณ์มันสำปะหลัง ทำให้ตลอด 11 เดือนที่ผ่านมา ส่งออกไทยติดลบร้อยละ 0.05 คิดเป็นมูลค่ากว่า 6.9 พันล้านบาท นำเข้าติดลบร้อยละ 0.8 และเกินดุลกว่า 6.1 หมื่นล้านบาท และคาดการณ์ทั้งปีจะไม่ติดลบ และอยู่ที่ลบ 0.1 ถึง ขยายตัวร้อยละ 0.2 คิดเป็นมูลค่าประมาณ 2.1 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐฯ
พร้อมประเมินแนวโน้มส่งออกปี 2560 จะขยายตัวร้อยละ 2.5-3 เนื่องจากอัตราการขยายตัวเศรษฐกิจประเทศคู่ค้าฟื้นตัว ค่าเงินบาทและราคาสินค้าเกษตรฟื้นตัวตามราคาน้ำมันโลก และจับตาผลกระทบจากนโยบายการค้าระหว่างประเทศของประธานาธิบดีสหรัฐฯใหม่และความไม่แน่นอนเศรษฐกิจยุโรป รวมทั้งการเจรจาออกจากกลุ่มสหภาพยุโรปของสหราชอาณาจักร
ทั้งนี้ การที่เพิ่งจะขาดดุลงบประมาณเพิ่มเติมสำหรับดำเนินโครงการลงทุนกลุ่มจังหวัด ไม่ได้ส่งผลต่อการส่งออกโดยตรง แต่ช่วยสร้างความเข้มแข็งเศรษฐกิจภายในจากท้องถิ่นและเอสเอ็มอีมากกว่า