หลังจากนายบารัค โอบามา ประธานาธิบดีสหรัฐฯ สั่งขับไล่นักการทูตรัสเซีย 35 คนออกจากประเทศภายในเวลา 72 ชั่วโมง รวมทั้งควํ่าบาตรเจ้าหน้าที่หน่วยงานข่าวกรองของรัสเซีย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศของรัสเซียก็ออกมาเรียกร้องให้ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ตอบโต้ด้วยการส่งทูตสหรัฐฯ กลับประเทศ
การขับไล่นักการทูตรัสเซียออกจากสหรัฐฯ เกิดขึ้นจากการที่สหรัฐฯ พบว่ารัสเซียมีส่วนเกี่ยวข้องกับการจารกรรมข้อมูลจากเครือข่ายคอมพิวเตอร์ของพรรคเดโมแครตในช่วงการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกาเมื่อเดือนพฤศจิกายน 2559
สำนักข่าวต่างประเทศรายงานโดยอ้างสื่อรัสเซียเมื่อช่วงค่ำวันนี้ (30 ธ.ค.2559) ว่านายเซอร์เก ลาฟรอฟ รัฐมนตรีต่างประเทศของรัสเซียได้เรียกร้องไปยังผู้นำของตน คือ ประธานาธิบดีปูติน ให้ตอบโต้สหรัฐฯ ด้วยวิธีการเดียวกันหรือที่สื่อต่างประเทศเรียกว่าแบบ "ตาต่อตาฟันต่อฟัน" คือ ให้ขับไล่นักการทูตสหรัฐฯ ที่ประจำอยู่ในกรุงมอสโกและเซ็นปีเตอร์สเบิร์ก รวม 31 คน ออกนอกประเทศ
แต่หลังจากนั้นไม่นาน ปูตินก็ออกมาแถลงว่า เขาจะไม่ขับไล่ใครออกจากประเทศ พร้อมกับระบุว่า รัสเซียจะไม่ลดตัวลงไปใช้วิธีการทางการทูตแบบไร้ความรับผิดชอบเช่นนี้ แต่จะเดินหน้าฟื้นฟูความสัมพันธ์ของทั้งสองประเทศอีกครั้งภายใต้ผู้นำคนใหม่ คือ นายโดนัลด์ ทรัมพ์
ประธานาธิบดีปูตินบอกว่า นักการทูตสหรัฐฯ และครอบครัวจะได้เฉลิมฉลองวันหยุดเทศกาลปีใหม่ในรัสเซียอย่างที่เคยเป็นมา และเขาจะเชิญลูกๆ ของนักการทูตสหรัฐฯ มาร่วมฉลองปีใหม่ที่เครมลินซึ่งเป็นที่ทำการของรัฐบาลด้วย
นอกจากนี้นายปูติน ยังอวยพรปีใหม่แก่นายโอบามาและครอบครัว รวมทั้งว่าที่ประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมพ์ และชาวสหรัฐฯ ทุกคนด้วย