วันนี้ (9 ก.พ.2560) การสืบพยานฝ่ายผู้ร้องคดีที่นางจอมทรัพย์ แสนเมืองโคตร ยื่นเรื่องรื้อฟื้นคดีขับรถชนคนเสียชีวิตเมื่อปี 2548 ผ่านมาแล้วกว่า 5 ชั่วโมง โดยตลอดช่วงเช้า พนักงานอัยการได้ซักค้านนางทัศนีย์ หาญพยัคฆ์ พยานที่อ้างว่าเห็นรถกระบะชนคนเสียชีวิต เมื่อช่วงค่ำของวันที่ 11 มีนาคม 2548 โดยนางทัศนีย์ให้การว่า ในคืนวันเกิดได้ขับขี่รถจักรยานยนต์มาพร้อมกับนางทองเรศ วงศ์ศรีชา โดยเห็นรถกระบะมีหลังคาขับแซงในลักษณะคร่อมเลนส์ ก่อนจะชนคนขี่รถจักรยานเสียชีวิต หลังเกิดเหตุพบเห็นผู้ชายลงมาจากรถ แล้วนั่งลงในลักษณะนั่งยองๆ ก่อนจะกลับมาขึ้นรถ แล้วหลบหนีไป
ต่อมา พนักงานอัยการได้ซักค้านนางทัศนีย์ เนื่องจากยังมีประเด็นสงสัย โดยเฉพาะคำให้การในชั้นพนักงานสอบสวนเมื่อปี 2548 และคำให้การกับศาลชั้นต้นเมื่อปี 2549 ขัดแย้งกัน โดยในชั้นสอบสวนบอกว่าเห็นรถกระบะโตโยต้า บค 56 สกลนคร แต่ในชั้นศาลบอกว่า เห็นแค่หมวดอักษร บ ใบไม้ ทะเบียน 56 แต่จำจังหวัดไม่ได้
อีกประเด็นที่ศาลซักค้าน คือการที่นางทัศนีย์ ให้การในชั้นศาลว่าเห็นผู้ชายสูงประมาณ 170 เซนติเมตร ลงจากรถ ทั้งที่ในชั้นพนักงานสอบสวนไม่ได้ระบุ นอกจากนี้ ยังปรากฏชื่อ นางทองเรศ วงศ์ศรีชา ปรากฏเป็นพยานเมื่อปี 2557 ทั้งที่ก่อนหน้านี้ไม่ได้ปรากฏชื่อพยานเช่นกัน แต่นางทัศนีย์ได้โต้แย้งไปว่า ขณะนั้นพนักงานสอบสวนไม่ได้สอบถามในประเด็นนี้
ขณะที่ฝ่ายผู้ร้องคัดค้าน ซึ่งขึ้นเบิกความในช่วงบ่าย จะนำข้อมูลมาหักล้างประเด็นที่ฝ่ายผู้ร้องอ้างว่ามีพยานใหม่ โดยเฉพาะนายสับ วาปี ที่ก่อนหน้ารับว่าเป็นขับรถกระบะ ทะเบียน บค56 มุกดาหาร และเป็นรถคันที่ก่อเหตุจริง ประเด็นนี้ฝ่ายคัดค้าน จะเบิกตัวพยาน 4 ปาก คือนายลัน โพนแก้ว ซึ่งซื้อรถต่อจากนายสับ เมื่อประมาณปี 2545-2546 ก่อนที่นายลัน จะขายให้ นายอุบล ไชยบัน เมื่อปลายปี 2547
สำหรับปากที่ 3 จะเบิกความตัวแทนจากบริษัท วิริยะประกันภัย ซึ่งยืนยันได้ว่า นายอุบล ได้ต่อ พ.ร.บ.เมื่อช่วงต้นปี 2548 และปากที่ 4 จึงเบิกความนายเสริฐ รูปสะอาด ที่อ้างว่าได้รับการว่าจ้างมาจากกลุ่มเพื่อนครูในราคา 200,000 บาท เพื่อให้รับว่าเป็นคนขับรถชนคนเสียชีวิต