วันนี้ (24 ก.พ.2560) สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติมาเลเซีย เปิดเผยว่า จากการตรวจสอบสารที่พบบริเวณดวงตาและใบหน้าของนายคิม จอง นัม โดยเจ้าหน้าที่กรมเคมีมาเลเซีย ในเบื้องต้นพบว่า สารพิษดังกล่าว คือสาร VX Nerve Agent ซึ่งเป็นสารพิษร้ายแรงที่ใช้ในการผลิตอาวุธเคมี นอกจากนี้ ตำรวจยังระบุว่า จะต้องมีการสอบสวนเพิ่มเติมในประเด็นว่ามีการลักลอบนำสารพิษร้ายแรงชนิดนี้เข้ามาในประเทศได้อย่างไร หรืออาจจะมีการผลิตขึ้นในประเทศหรือไม่ รวมทั้งยังไม่ได้ให้รายละเอียดเพิ่มเติมด้วยว่าหญิงชาวเวียดนามและอินโดนีเซียทั้ง 2 คน หลีกเลี่ยงการสัมผัสสารพิษชนิดนี้ ขณะนำไปป้ายที่ใบหน้าของนายคิม จอง นัม ได้อย่างไร หรือทั้ง 2 คน อาจสวมใส่ถุงมือชนิดบางๆ เพื่อป้องกันตัว หรือการรีบไปล้างมืออย่างรวดเร็ว จะช่วยลดความเสี่ยงของสารพิษด้วยหรือไม่
สารพิษชนิดนี้เป็นสารออกฤทธิ์ต่อระบบประสาท ไม่มีรส ไม่มีกลิ่นและมีสีเหลืองอำพัน ผลิตออกมาได้ทั้งในรูปของเหลว ครีม หรือสารฉีดพ่น โดยองค์การสหประชาชาติได้ประกาศให้สาร VX ให้เป็นอาวุธที่มีอานุภาพทำลายล้างสูง ซึ่งจัดว่าผิดกฎหมายภายใต้อนุสัญญาว่าด้วยอาวุธเคมี โดยจะอนุญาตให้ใช้ได้สำหรับวัตถุประสงค์ทางการวิจัย การแพทย์ หรือเภสัชกรรมเท่านั้น
ขณะที่ข้อมูลจากศูนย์ชีววิทยาเคมีกองทัพสหรัฐอเมริกา ระบุว่า สาร VX นี้จะออกฤทธิ์และส่งผลให้เป็นพิษร้ายแรงถึงชีวิต หลังจากได้รับสารพิษไปแล้ว 15 นาที ส่วนข้อมูลจากศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคติดต่อสหรัฐอเมริกา
ระบุว่า ถ้าสาร VX นี้ สัมผัสกับผิวหนังโดยตรงแล้วไม่ได้ล้างออกทันที จะเป็นพิษร้ายแรงต่อร่างกาย ซึ่งเรียกได้ว่าเป็นสารพิษที่ร้ายแรงที่สุดในโลกและยังเป็นสารที่ออกฤทธิ์ต่อระบบประสาทที่รุนแรงที่สุด
สารจำพวกที่ออกฤทธิ์ต่อระบบประสาทจะออกฤทธิ์ด้วยการไปขัดขวางการทำงานของเอนไซม์ที่คอยควบคุมต่อมและกล้ามเนื้อต่างๆ ในร่างกาย นำไปสู่อาการระบบทางเดินหายใจล้มเหลว ส่วนสารประกอบอื่นๆ ที่พบระหว่างการตรวจตัวอย่างบนใบหน้าของนายคิม จอง นัม ขณะนี้ยังคงอยู่ในระหว่างการตรวจวิเคราะห์ของเจ้าหน้าที่
ก่อนหน้านี้ รัฐบาลมาเลเซียได้จับกุมผู้ต้องสงสัยหญิงชาวเวียดนาม หญิงชาวอินโดนีเซียและชายชาวเกาหลีเหนือ ที่คาดว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับการลอบสังหารในครั้งนี้ พร้อมทั้งกำลังไล่ล่าผู้สมรู้ร่วมคิดชาวเกาหลีเหนืออีก 4 คน ซึ่งตำรวจมาเลเซีย เชื่อว่า ขณะนี้ได้เดินทางกลับไปยังกรุงเปียงยางของเกาหลีเหนือแล้ว
ส่วนผู้ต้องสงสัยอีก 2 คน คือเลขานุการโทของสถานทูตเกาหลีเหนือและพนักงานของสายการบินแห่งชาติเกาหลีเหนือ ยังอยู่ในมาเลเซียและอาจหลบซ่อนอยู่ในสถานทูตเกาหลีเหนือในกรุงกัวลาลัมเปอร์ จากการเปิดเผยข้อมูลของอดีตเจ้าหน้าที่เกาหลีเหนือที่แปรพักตร์ พบว่าลักษณะการส่งชาวเกาหลีเหนือเข้าไปแฝงตัวอาศัยอยู่ในต่างประเทศ เหมือนนาย รี จอง-ชอล ผู้ต้องสงสัยที่ถูกทางการมาเลเซียควบคุมตัวนั้น เป็นแนวทางการปฏิบัติการของหน่วยงานสอดแนม ที่ใช้ชื่อว่า "Office 35"
แม้ว่าก่อนหน้านี้ เกาหลีใต้จะออกมาระบุว่า หน่วยงานข่าวกรอง RGB ของเกาหลีเหนือน่าจะอยู่เบื้องหลังการลอบสังหาร แต่ผู้เชี่ยวชาญด้านระบอบการปกครองของเกาหลีเหนือ กลับมองว่า นายคิม จอง-นัม เป็นบุคคลสำคัญ จึงมีความเป็นไปได้ที่การลอบสังหารในครั้งนี้จะเป็นปฏิบัติการร่วมของหลายหน่วยงาน แต่ขณะนี้คงยังไม่สามารถระบุได้ว่ามีหน่วยงานใดที่เกี่ยวข้องบ้าง