วันนี้ (10 มี.ค.2560) นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ระบุว่า การตัดสินว่าจะให้พระธัมมชโย พ้นสมณเพศตามกฎมหาเถรสมาคมหรือไม่นั้น เป็นอำนาจที่มหาเถรสมาคมต้องพิจารณาเอง ไม่ใช่อำนาจรัฐบาล แต่ก็ส่งสัญญาณค่อนข้างชัดเจนว่า เป็นสิ่งที่สามารถทำได้
นอกจากการส่งสัญญาณให้ใช้กฎมหาเถรสมาคมในการดำเนินการ เมื่อวานนี้ (9 มี.ค.)สำนัก งานตำรวจแห่งชาติ กรมสอบสวนคดีพิเศษ และ ปปง.ยังทำหนังสือถึงความผิดที่เกี่ยวข้องกับพระธัมมชโย ส่งให้ พศ. ให้รายงานต่อที่ประชุมมหาเถรสมาคม หรือมส. ในวันนี้ ตามมาด้วยผู้ตรวจการแผ่นดิน ที่ทำหนังสือสอบถามไปยังสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ หรือ พศ. เพื่อถามถึงการดำเนินการเกี่ยวกับ พระลิขิตสมเด็จพระสังฆราชพระองค์ก่อน เกี่ยวกับประเด็นการอาบัติปาราชิก ว่ามีความคืบหน้าอย่างไร
ด้านศาสตราจารย์ปรีชา สุวรรณทัต อดีตคณบดีคณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ วิเคราะห์ว่า อาจมีผลต่อการตัดสินใจของมหาเถรสมาคมในวันนี้ เพราะหากมหาเถรสมาคม มีมติให้ใช้กฎมหาเถรสมาคม ฉบับที่ 21 ว่าด้วยการให้พระภิกษุสละสมณเพศ ให้พระธัมมชโยสึกอาจไปขัดหรือแย้ง หรือเท่ากับไม่ยอมรับพระบัญชาของสมเด็จพระสังฆราชพระองค์ก่อน
ซึ่งระบุว่า พระธัมมชโยต้องอาบัติปาราชิก หมายถึง เป็นการผิดพระธรรมวินัยที่มีศักดิ์สูงกว่ากฎหมายบ้านเมือง และยังไม่เป็นการเคารพพระบัญชาของสมเด็จพระสังฆราชอีกด้วย
การประชุมของมหาเถรสมาคม หรือ มส. ในวันนี้ จึงมีความเป็นไปได้ที่จะพิจารณาเป็น 2 แนวทาง คืงหากมีการพิจารณาในแนวทางนี้ ก็อาจมีความเป็นไปได้ว่า มหาเถรสมาคม อาจมีความเห็นเพิ่มเติมว่า จะดำเนินการอย่างไรต่อไปด้วย