เมื่อวานนี้ (26 เม.ย.2560) นายฐากร ตัณฑสิทธิ์ เลขาธิการ กสทช.เปิดเผยภายหลังจากการหารือมาตรการระงับการเผยแพร่ข้อมูลข่าวสารที่ผิดกฎหมายผ่านช่องทางอินเทอร์เน็ตว่า คณะกรรมการกิจการโทรคมนาคม หรือ กทค.ได้มีมติสั่งไปยังผู้ให้บริการเชื่อมต่อเข้าระบบอินเทอร์เน็ต (ไอเอสพี) ทุกราย ถึงแนวทางปฏิบัติในการจัดการเนื้อหาที่ผิดกฎหมายบนอินเทอร์เน็ต ที่แม้จะลบจากต้นทางไปแล้ว แต่ข้อมูลยังคงค้างอยู่ในระบบเซิร์ฟเวอร์ (ซีดีเอ็น)
โดยในวันนี้ (27 เม.ย.) กสทช.จะมีหนังสือส่งไปยังไอเอสพีทุกรายให้นำเนื้อหาที่ขัดต่อกฎหมายออกจากระบบทั้งหมด รวมถึงที่ค้างอยู่ในซีดีเอ็น ภายใน 7 วัน และเมื่อครบ 7 วัน หากยังพบผู้ประกอบการไอเอสพีรายใด มีเนื้อหาขัดต่อกฎหมายค้างอยู่ในระบบ หากตรวจพบจะมีโทษจากทั้ง 3 หน่วยงาน ได้แก่ 1.โทษจาก กสทช.จะมีตั้งแต่ปรับ พักใช้ และเพิกถอนใบอนุญาต 2.โทษจากกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) จะดำเนินการตามขั้นตอนของ พ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ และ 3.โทษจาก ปอท.จะเป็นโทษตามประมวลกฎหมายอาญา
ด้าน นาวาอากาศเอกสมศักดิ์ ขาวสุวรรณ์ รองปลัดกระทรวงดิจิทัลฯ กล่าวว่า สิ่งที่หน่วยงานต่างๆ ดำเนินการร่วมกันในครั้งนี้ เป็นการปรับกระบวนการทำงานร่วมกันตามขั้นตอนของกฎหมาย เพื่อให้กระบวนการต่างๆ รวบรัดขึ้น ในการเอาจริงเอาจังด้านการปราบปรามเนื้อหาที่ผิดกฎหมายบนอินเทอร์เน็ต อาทิ เว็บไซต์หมิ่นสถาบัน ลามกอนาจาร ผิดศีลธรรม และละเมิดลิขสิทธิ์ เป็นต้น