วันนี้ ( 3 พ.ค.2560 ) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บรรยากาศการจับจ่ายสินค้าในช่วงใกล้เปิดเทอมในหลายพื้นที่เริ่มคึกคัก โดยในจ.น่าน ผู้ปกครองต่างพาบุตรหลานซื้อชุดนักเรียน และอุปกรณ์การเรียนกันเป็นจำนวนมาก เจ้าของร้าน กล่าวว่า ปีนี้ยังคงจำหน่ายในราคาเท่ากับปีก่อน ขณะเดียวกันได้กระตุ้นยอดขายโดยจัดกิจกรรมส่งเสริมการขายผ่านเว็บไซต์เฟซบุ๊ก เพื่อรับส่วนลดหรือของสมนาคุณ ทำให้มีลูกค้ามาใช้บริการวันละกว่า 1,000 คน
เช่นเดียวกับที่ อ.เมือง จ.พิษณุโลก บรรยากาศที่ร้านจำหน่ายชุดนักเรียน ย่านถนนนเรศวร ต.ในเมือง เป็นไปอย่างคึกคัก ผู้ปกครองต่างนำบุตรหลานมาเลือกซื้อชุดนักเรียนตลอดทั้งวัน ผู้ปกครองหลายคน บอกว่า ส่วนใหญ่จะเน้นสินค้าที่มีคุณภาพ ราคาประหยัด และขอใช้บริการปักชื่อและโรงเรียนฟรีจากทางร้าน เพื่อประหยัดค่าใช้จ่าย ขณะที่ สถานธนานุบาลนครพิษณุโลกแห่งที่ 1 และ 2 เริ่มมีประชาชนนำทรัพย์สินมีค่า โดยเฉพาะทองรูปพรรณไปจำนำ เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายช่วงเปิดเทอม
นายบุญทรง แทนธานี นายกเทศมนตรีนครพิษณุโลก กล่าวว่า ปีนี้ เตรียมสำรองเงินให้กับสถานธนานุบาลทั้ง 2 แห่ง ประมาณ 220 ล้านบาท ซึ่งคาดว่าจะเพียงพอต่อความต้องการ ทั้งนี้ ผู้ที่ต้องการใช้เงินวงเงินไม่เกิน 5,000 บาท จะคิดอัตราดอกเบี้ยเพียง 25 สตางค์ ส่วนวงเงินเกิน 5,000 บาท ขึ้นไป คิดอัตราดอกเบี้ย 75 สตางค์ ถึงวันที่ 31 พ.ค.นี้
นอกจากนี้ที่ จ.บุรีรัมย์ ผู้ปกครองพาบุตรหลานไปเลือกซื้อชุดนักเรียนและเครื่องเขียน โดยร้านค้ายังคงจำหน่ายราคาเดิม ตั้งแต่ตัวละ 150-300 บาทเศษ ผู้ปกครองหลายคน บอกว่า เลือกซื้อเสื้อผ้าในราคาถูกถึงปานกลางเพื่อประหยัดค่าใช้จ่าย เนื่องจากหากเลื่อนชั้นจาก อนุบาล ขึ้น ป.1 หรือ จาก ป.6 ขึ้น มัธยมศึกษา ต้องเสียค่าใช้จ่าย 3,000 - 4,000 บาท
เช่นเดียวกับที่ จ.อุบลราชธานีและนครราชสีมา ผู้ปกครองส่วนใหญ่เลือกซื้อสิ่งของตามความจำเป็น โดยเน้นให้ใส่ชุดเดิมที่ยังใส่ได้ แทนการซื้อใหม่ ทั้งนี้บางคน
เรียกร้องให้รัฐบาลเพิ่มวงเงินอุดหนุนในโครงการเรียน จากปัจจุบันชั้น ป.1 - ป.3 จะได้ค่าชุดนักเรียนเพียง 360 บาท และค่าอุปกรณ์การเรียน 390 บาท โดยขอให้เพิ่มเป็นอย่างละ 500 บาท เพื่อแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่าย
ขณะที่ ภาคใต้ จ.กระบี่ จากการสำรวจพบว่า ร้านหลายแห่งปรับกลยุทธิ์การขายโดยลดราคาสินค้าและมีของแถม เพื่อแข่งขันกับห้างค้าส่งค้าปลีกขนาดใหญ่ เจ้าของร้าน กล่าวว่า ชุดนักเรียนทุกระดับชั้นไม่ได้ปรับขึ้นราคา ขณะที่ผู้ปกครองจะเลือกซื้อเฉพาะที่จำเป็น ยกเว้นนักเรียนที่เลื่อนชั้นจากอนุบาล ขึ้น ป.1 และชั้น ป.6 ขึ้น ม.1 ที่ต้องซื้อชุดนักเรียนและอุปกรณ์การเรียนใหม่ทั้งหมด