วันนี้(5 พ.ค.2560)ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ตรวจสอบหลังอุบัติเหตุอุปกรณ์เหล็กหล่นทับคนงานก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีแดงเสียชีวิต 3 ราย โดยขณะนี้ทาง กรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน กระทรวงแรงงาน ยืนยันว่า จะเดินหน้าฟ้องร้องบริษัทอิตาลียนไทย ผู้รับเหมาโครงการ แทนการจ่ายค่าปรับเหมือนทุกครั้งที่ผ่านมา
หลังสอบข้อเท็จจริงเหตุ คนงาน ชาย 3 คน เสียชีวิตเมื่อ 6 วันก่อน จากการก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีแดง พบว่า อุปกรณ์เซฟตี้ไม่ดีพอและบริษัทประมาท ขณะที่วันนี้ จุดอื่นๆ ของการก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีแดง ก็ยังมีแรงงานทั้งคนไทยและข้ามชาติเร่งทำงานเหมือนทุกวัน
ทั้งนี้มีการจำลองเหตุการณ์คนงานตกตึกสูง 1 ชั้น ระหว่างทำงานแสดงให้เห็นว่า แม้พวกเขาจะมีสายผูกติดตัว หรือ เซฟตี้อย่างดี แต่เมื่อตกลงมาจากที่สูง จะมีแรงกระทำทำให้คนงานบาดเจ็บอันตรายถึงชีวิตได้มากถึง 20 เท่า
นี่จึงเป็นเหตุผล ที่ทำให้กรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน ยืนยันว่าจะฟ้องร้องดำเนินคดีกับบริษัทอิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ จำกัด (มหาชน) แทนการจ่ายค่าปรับเหมือนทุกครั้งที่ผ่านมา ในฐานะนายจ้างคนงานชาย 3 คน ที่เสียชีวิตจากฐานรองรับเครนล้มระหว่างการก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีแดง
หลังพนักงานตรวจสอบความปลอดภัยสอบข้อเท็จจริงพบว่า ระหว่างที่คนงาน 3 คน ปฎิบัติหน้าที่อุปกรณ์เซฟตี้ไม่ดีพอ และไม่มีเจ้าหน้าที่ควบคุม
นาย สุเมธ มโหสถ อธิบดีกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน บอกว่า แม้วันนี้จะมีคำสั่งให้บริษัทอิตาเลียนไทยฯ หยุดดำเนินการก่อสร้างจุดที่มีปัญหา แต่จุดอื่นๆยังคงมีแรงงานทั้งคนไทยและข้ามชาติเร่งทำงานเหมือนเดิม
ขณะที่ วีรยา สืบเจาะจบ ชาวจังหวัดสุรินทร์ เล่าว่า เธอทำอาชีพนี้มา 3 ปี แล้ว หลังเกิดอุบัติเหตุเป็นเหตุให้ลูกจ้าง 3 คนเสียชีวิตเมื่อ 6 วันก่อน ทำให้เธอทำงานด้วยความกังวล แต่ทุกครั้งที่ทำงานก็จะเตรียมอุปกรณ์เซฟตี้ให้พร้อม
การเสียชีวิตของแรงงานที่เกิดขึ้นมากถึงปีละ 500 คน ทำให้ นายสาวิทย์ แก้วหวาน ประธานคณะกรรมการสมานฉันท์แรงงานไทย มองว่าการบังคับใช้กฎหมายความปลอดภัยอาชีวอนามัยและสภาพแวดล้อมในการทำงานปี 2554 ยังไม่เข้มข้น และแม้ว่าจะพบบริษัท กระทำผิดซ้ำๆ แต่ยังไม่มีการขึ้นบัญชีดำเหมือนกับต่างประเทศ
ขณะที่วันความปลอดภัยในการทำงานแห่งชาติ ซึ่งตรงกับวันที่ 10 พ.ค.ของทุกปี ประธานคณะกรรมการสมานฉันท์แรงงานไทย เตรียมยื่นข้อเสนอ 10 ข้อ ต่อรัฐบาล เช่น การตั้งศูนย์ความปลอดภัย จัดหากองทุนเพื่อนำมาแก้ไขปัญหาคุ้มครองแรงงานไทยให้ปลอดภัยจากการทำงานมากขึ้น