เมื่อวานนี้ (14 พ.ค.2560) เจ้าของล้งรับซื้อทุเรียนแห่งหนึ่งใน จ.จันทบุรี พาผู้สื่อข่าวไปดูผงขมิ้นในกระสอบที่บดเป็นผงและใช้มือขยี้ผงขมิ้นเเล้วนำมาแตะลิ้นเพื่อกินผงขมิ้นให้ดู เขาต้องการแสดงให้เห็นว่าไม่เป็นพิษ ซึ่งทุเรียนทั้งหมดผ่านการชุบขมิ้นเเล้วเเละเตรียมส่งไปตรวจมาตรฐานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยบอกว่าการชุบขมิ้นทำกันมานานนับสิบปี จนมีธุรกิจปลูกขมิ้นเเละนำมาขายเเบบผง แต่ผู้รวบรวบผลผลิต หรือล้งบางรายอาจจะผสมผงขมิ้นมากจนเกินพอแห้งก็จะมีคราบผงขมิ้นติดอยู่มาก ผู้บริโภคที่เป็นชาวจีนมาหยิบและเกิดติดมือ จึงตกใจ
นายแจ๊ค ผู้ค้าทุเรียน จ.จันทบุรี เปิดเผยว่า การชุบในน้ำขมิ้น เพื่อให้ผลทุเรียนให้ยังคงมีสภาพที่ดีสีสวยไม่คล้ำเพื่อเป็นการตลาด ส่วนหนึ่งเกี่ยวกับความเชื่อ เพราะชาวจีนชอบสิ่งของและอาหารที่มีสีเหลืองที่เปรียบเสมือนตัวแทนของทองคำ ซึ่งล้งมีจำนวนมาก ต้องยอมรับว่าบางรายนอกจากจะชุบน้ำขมิ้นแล้วยังใส่สารออรามีน โอ ที่เป็นสารสีเหลืองที่ใช้ในอุตสาหกรรมย้อมผ้า กระทรวงพาณิชย์และกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ จึงต้องหารือกัน เพื่อจัดระเบียบการส่งออกทุเรียน
ขณะที่เกษตรกรชาวสวนทุเรียนยอมรับว่าข่าวดังกล่าวอาจมีผลทำให้ราคาทุเรียนตกต่ำลง ซึ่งขณะนี้หน้าสวนมีพ่อค้ามารับซื้อ 60-80 บาทต่อกิโลกรัม สำหรับในปัจจุบัน จีนเป็นลูกค้าหลักของไทยปี 2559 ส่งไปขาย 402,600 ตัน มูลค่า 17,469 ล้านบาท ซึ่งในปีนี้คาดว่าผลผลิตทุเรียนจะเพิ่มขึ้นจากปีที่ผ่านมาประมาณร้อยละ 30-40 ขณะที่ผงขมิ้นนอกจากจะถนอมอาหาร ตัวขมิ้นยังเป็นเครื่องเทศชั้นหนึ่งที่ผสมในแกงและสมุนไพรสำหรับรักษาโรคผดผื่นคัน