วันนี้ (27 พ.ค.2560) นายพิศักดิ์ จิตวิริยะวศิน อธิบดีกรมทางหลวงชนบท เปิดเผยว่า สายทางที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัย มีจำนวน 30 สายทาง ใน 8 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดพะเยา กำแพงเพชร เลย เพชรบูรณ์ อุบลราชธานี สุโขทัย ฉะเชิงเทรา และขอนแก่น โดยกำชับให้แขวงทางหลวงชนบทในพื้นที่ ดูแลเฝ้าระวังติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด และให้ความช่วยเหลือประชาชน ที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัยอย่างรวดเร็ว
ปัจจุบันมีสายทางที่ประสบอุทกภัยทั้งหมดเข้าสู่ภาวะปกติแล้ว จำนวน 27 สายทาง และสัญจรผ่านไม่ได้ จำนวน 1 สายทาง คือสายทาง ลย 3011 ในพื้นที่ อ.เชียงคาน จ.เลย ซึ่งปัจจุบันได้วางท่อลอดแล้วเสร็จ และอยู่ระหว่างถมวัสดุทำทางเบี่ยง คาดว่าจะแล้วเสร็จภายในวันที่ 29 พฤษภาคมนี้
โดยหลังจากกลับเข้าสู่ภาวะปกติจะดำเนินการซ่อมแซมเบื้องต้น เพื่อให้ประชาชนสามารถสัญจรไปมาได้ภายใน 7 วัน และจะดำเนินการสำรวจ ออกแบบ ประมาณราคา เพื่อขอสนับสนุนงบประมาณแก้ไขปัญหาในระยะยาวต่อไป
ทั้งนี้ ขอความร่วมมือประชาชนระมัดระวังในการสัญจร โดยสังเกตป้ายจราจรเตือนระดับน้ำ หรือป้ายหลีกเลี่ยงเส้นทาง สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม หรือ แจ้งเหตุอุทกภัยได้ ที่สายด่วนทางหลวงชนบท 1146 ตลอด 24 ชั่วโมง
สำหรับเจ้าของรถที่แผ่นป้ายทะเบียนหล่นหาย นายณันทพงศ์ เชิดชู รองอธิบดีกรมการขนส่งทางบก เปิดเผยว่า เจ้าของรถที่แผ่นป้ายทะเบียนหายสามารถติดต่อยื่นคำขอรับแผ่นป้ายทะเบียนรถทดแทน โดยไม่ต้องแจ้งความ ในกรุงเทพมหานครยื่นคำขอได้ที่สำนักงานขนส่งกรุงเทพมหานครพื้นที่ 1-5 ที่รถอยู่ในความรับผิดชอบ และส่วนภูมิภาค ยื่นคำขอได้ที่สำนักงานขนส่งจังหวัด หรือ สำนักงานขนส่งสาขาที่รถอยู่ในความรับผิดชอบ โดยเสียค่าใช้จ่ายแผ่นป้ายละ 100 บาท ค่าคำขอ 5 บาท และจะได้รับแผ่นป้ายทะเบียนรถภายใน 15 วัน โดยระหว่างนี้ให้ใช้ใบเสร็จรับเงินแทนแผ่นป้ายชั่วคราวได้ พร้อมเตือนประชาชนว่าอย่าทำป้ายทะเบียนปลอมเพื่อใช้งาน เนื่องจากจะเข้าข่ายปลอมแปลงเอกสารราชการ มีความผิดทางอาญาปรับตั้งแต่ 1,000-10,000 บาท และจำคุกตั้งแต่ 6 เดือน - 5 ปี หรือ ทั้งจำทั้งปรับ รวมถึงผู้ฉวยโอกาสนำแผ่นป้ายทะเบียนรถที่เก็บได้ไปใช้จะมีความผิดตามกฎหมายด้วยเช่นเดียวกัน