ค้นหา
ทีวีออนไลน์
เว็บไซต์ในเครือ
เว็บไซต์บริการ

เปิดหลักฐานการทุจริตเงินอุดหนุนวัด

อาชญากรรม
13 มิ.ย. 60
19:28
558
Logo Thai PBS
เปิดหลักฐานการทุจริตเงินอุดหนุนวัด

ไทยพีบีเอสได้หลักฐานจากตำรวจกองบังคับการป้องกันและปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการทุจริตและประพฤติมิชอบ (ปปป.) เป็นข้อความการสนทนาผ่านแอพลิเคชั่นไลน์ ระหว่างเจ้าหน้าที่สำนักพุทธ กับเจ้าอาวาส 1 ใน 12 วัดที่ถูกกล่าวหาทุจริตเงินอุดหนุนวัด ของสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ

 

 

เอกสารการสนทนาผ่านแอพลิเคชั่นไลน์ ระหว่างนางณัฐฐาวดี ตันตยาวิสารสุทธิ เจ้าหน้าที่ระดับสูงกลุ่มศาสนสถาน สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ กับนายศิวโรจน์ ปิยะรัตน์เสรี อดีตเจ้าอาวาสวัดบ้านอ้อ จ.ลำปาง คือ หลักฐานสำคัญที่ทำให้เชื่อว่าทั้ง 2 ผู้ต้องหา เกี่ยวข้องคดีทุจริตงบบูรณะและปฎิสังขรณ์วัด กว่า 60 ล้านบาท แต่เจ้าหน้าที่ตำรวจ ปปป. เชื่อว่าเป็นเพียงการสร้างเรื่องขึ้นมาเพื่อเลี่ยงการตรวจสอบของเจ้าหน้าที่

บางช่วงในเนื้อหา ระบุว่า นายศิวโรจน์ ขณะนั้นเป็นเจ้าอาวาสวัดบ้านอ้อ จ.ลำปาง ได้เชิญชวนผู้ที่มีจิตศรัทธาคนหนึ่งเป็นเจ้าภาพร่วมทำบุญสร้างโบสถ์ วิหาร ขณะนั้นวัดกำลังสร้างโบถส์ยังไม่แล้วเสร็จ แต่ผู้มีจิตศรัทธาคนนั้นบอกว่ามีเงินไม่มาก แต่มีพระสมเด็จที่บรรพบุรุษให้มา อ้างว่าหากขายจะมีมูลค่ามากกว่า 10 ล้านบาท จะนำเงินแบ่งให้เจ้าอาวาสร่วมทำบุญครึ่งหนึ่ง

 

 

นายศิวโรจน์ อดีตเจ้าอาวาส อ้างว่ามีชาวต่างชาติสนใจพระสมเด็จแต่เสนอเงินให้ 6 ล้านบาท นายศิวโรจน์จึงขอส่วนแบ่งเงินครึ่งหนึ่งคือ 3 ล้านบาท ให้เงินโอนเข้าบัญชีผู้มีจิตศรัทธา และได้โอนเงินเข้ามาในบัญชีเจ้าอาวาส โดยตกลงโอน วันที่ 1 ธ.ค. จำนวน 580,000 บาท ส่วน 200,000 บาท ให้โอนภายหลัง

 

 

เจ้าหน้าที่เปิดเผยว่า ข้อความดังกล่าวเป็นเพียงส่วนหนึ่งที่ นายนายศิวโรจน์ ให้ปากคำกับพนักงานสอบสวน นอกจากนี้ยังได้ซัดทอดว่า นางณัฐฐาวดี เป็นคนจัดการและส่งมาให้ ซึ่งยังคงขัดแย้งกับคำให้การของนางณัฐฐาวดี

ขณะที่ วันนี้นางณัฐฐาวดี ได้ขอเลื่อนเข้าให้ปากคำกับพนักงานสอบสวน โดยก่อนหน้านี้ นางณัฐฐวดีให้การปฎิเสธ ไม่เกี่ยวข้องการทุจริต

 

 

พล.ต.ต.กมล เหรียญราชา ผู้บังคับการกองปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ ระบุว่า จากการตรวจสอบการทุจริตงบบูรณะและปฎิสังขรณ์วัด 12 แห่ง ส่วนหนึ่งเป็นการสืบสวนขยายผล หลังจากได้ข้อมูลจาก เจ้าหน้าที่ สตง. นอกจากนี้ ยังพบมีวัดอีกไม่น้อยกว่า 400 แห่งทั่วประเทศ เข้าข่ายการทุจริตในลักษณะคล้ายกัน ตั้งแต่ปี 2556 - 2559

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง