เมื่อวานนี้ (12 ก.ค.2560) การเสวนาครั้งนี้มีผู้เชี่ยวชาญในวงการฟุตบอลไทยเข้าร่วมแลกเปลี่ยนความคิดเห็นทั้ง สุรชัย จตุรภัทรพงศ์ ผู้อำนวยการสโมสรบางกอกกล๊าส รวมถึง 2 บุคคลในวงการสื่อที่ช่วยขับเคลื่อนฟุตบอลไทยอย่าง สมฤกษ์ อิศรางกูร ณ อยุธยา กับ มนต์ชัย สุขโข ประเด็นสำคัญอยู่ที่เรื่องความเป็นห่วงฟุตบอลอาชีพของไทย หากเกิดปัญหาฟองสบู่แตกในอนาคต เนื่องจากตั้งแต่ปี 2009-2017 ฟุตบอลไทยเติบโตเร็วมาก โดยปัจจุบัน หลายสโมสรลงทุนทำทีมกันเป็นหลายร้อยล้านบาท แต่สปอนเซอร์ต่างสวนทางกับงบประมาณในการทำทีม, เช่นเดียวกับยอดผู้ชมในสนาม และยอดขายของที่ระลึกไม่ตามเป้า นั่นจึงทำให้อนาคตหลายๆ สโมสรอาจเกิดวิกฤตทางการเงิน ซึ่งหลายฝ่ายอยากให้สโมสรศึกษาการทำสปอร์ต ทัวริซึ่ม เพื่อหาจุดเด่นให้สโมสรและจังหวัดที่ตั้งถิ่นฐานอยู่
ปี 2017 เป็นอีกหนึ่งฤดูกาลที่ทีมไทยลีกทุ่มงบประมาณในการทำทีมมหาศาลเพื่อแลกกับความสำเร็จ เช่น เมืองทอง 400 ล้านบาท, เชียงราย ยูไนเต็ด 300 ล้านบาท, บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด 250 ล้านบาท ขณะที่แบงค็อก ยูไนเต็ด กับอุบล ยูเอ็มที ทีมละ 200 ล้านบาท และถ้านับรวมทั้ง 18 ทีม ไทยลีกใช้เงินลงทุนไปถึง 2,640 ล้านบาท นั่นจึงทำให้เป็นห่วงว่าเศรษฐกิจการเงินไทยที่ย่ำแย่ในปัจจุบัน อาจทำให้กระทบหลายๆ สโมสรในอนาคตอันใกล้