อุบลราชธานี ระดับน้ำยังวิกฤต-เรือผลักดันน้ำเจอเศษวัชพืชติด

วันนี้ (6 ส.ค.2560) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากการติดตามสถานการณ์น้ำในลุ่มแม่น้ำมูลพบว่า ระดับน้ำในแม่น้ำมูลที่ไหลผ่านบริเวณจังหวัดอุบลราชธานี ซึ่งเป็นจุดรวมน้ำของแม่น้ำชีและแม่น้ำมูลก่อนที่จะไหลลงสู่แม่น้ำโขง มีระดับน้ำเพิ่มสูงขึ้น เนื่องจากยังคงมีปริมาณน้ำจากแม่น้ำชีไหลลงสู่แม่น้ำมูลอย่างต่อเนื่อง โดยขณะนี้ปริมาณน้ำไหลผ่านสถานีน้ำ บริเวณสะพานเสรีประชาธิปไตย พบว่า อยู่ในเกณฑ์ 2,640 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที และสามารถระบายลงสู่แม่น้ำโขงในอยู่ในเกณฑ์ 2,740 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที

นายทองเปลว กองจันทร์ รองอธิบดีกรมชลประทาน ขณะนี้ได้เร่งติดตั้งเครื่องสูบน้ำ 50 เครื่อง เครื่องผลักดันน้ำ 28 เครื่องและรถขุด 5 คัน โดยเฉพาะบริเวณสะพานเสรีประชา ธิปไตย อ.เมือง จ.อุบลราชธานี ได้ติดตั้งเครื่องผลักดันน้ำจำนวน 22 เครื่อง เพื่อเร่งระบายน้ำในลุ่มแม่น้ำมูลให้ไหลลงสู่แม่น้ำโขงได้เร็วขึ้น และลดปริมาณน้ำที่คาดว่าจะท่วมในจังหวัดอุบลราชธานีลดลง

สำหรับสถานการณ์น้ำในแม่น้ำชีตอนล่างบริเวณจังหวัดร้อยเอ็ด ระดับน้ำเริ่มทรงตัวแล้ว ส่วนบริเวณจังหวัดยโสธร ระดับน้ำยังคงเพิ่มสูงขึ้นบ้าง แต่จากปริมาณน้ำจากลำปาวที่ไหลลงสู่แม่น้ำชีมีแนวโน้มลดลง ซึ่งจะส่งผลให้ระดับน้ำในแม่น้ำชี บริเวณจังหวัดร้อยเอ็ดและยโสธรมีแนวโน้มลดลงต่อเนื่อง

ผู้ว่าฯ อุบลราชธานี ยังห่วงระดับน้ำเกณฑ์วิกฤต

นายสมศักดิ์ จังตระกุล ผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานี เร่งประสานกรมชลประทานให้เข้ามาติดตั้งเครื่องผลักดันน้ำจำนวน 22 เครื่อง บริเวณสะพานเสรีประชาธิปไตย ในเขตเทศบาลนครอุบลราชธานี เพื่อเร่งระบายน้ำในแม่น้ำมูลลงสู่แม่น้ำโขง หลังระดับน้ำที่ไหลผ่านเขตเทศบาลเมืองอยู่ในเกณฑ์เฝ้าระวัง

นายสมชัย คล้ายทับทิม นายอำเภอเมืองจังหวัดอุบลราชธานี บอกว่า  มวลน้ำจากเขื่อนลำปาว จ.กาฬสินธุ์ และเขื่อนราษีไศล จ.ศรีษะเกษ เริ่มเข้ามาในพื้นที่ ทำให้เขตพื้นที่ลุ่มติดแม่น้ำได้รับผลกระทบ โดยเฉพาะเขตเทศบาลนครอุบลราชธานี และเทศบาลเมืองแจระแม มีประชาชนได้รับผลกระทบกว่า 100 ครัวเรือน พื้นที่ทางการเกษตร โดยเฉพาะนาข้าวได้รับผลกระทบอย่างน้อยกว่า 10,000 ไร่ ซึ่งทางเทศบาล ได้อพยพประชาชนในพื้นที่ประสบภัย มาอยู่ในในพื้นที่ปลอดภัยแล้ว 5 ชุมชน รวมกว่า 115 ครัวเรือน

เศษวัชพืช-โคลนติดเรือผลักดันน้ำ 14 ลำ

ผู้สื่อข่าวรายงานสถานการณ์น้ำในลำน้ำชี ที่จ.ร้อยเอ็ด ระดับน้ำเพิ่มสูงขึ้นเฉลี่ยประมาณ 10 - 15 เซนติเมตร ซึ่งเป็นผลจากเขื่อนอุบลรัตน์ จ.ขอนแก่น และเขื่อนลำปาว จ.กาฬสินธุ์ ระบายน้ำลงมาอย่างต่อเนื่อง ทำให้มวลน้ำจำนวนมาก กัดเซาะพนังกั้นน้ำชีขาดหลายจุด น้ำไหลเข้าท่วมพื้นที่การเกษตรแล้วนับหมื่นไร่ มีบ้านเรือนประชาชนกว่าพันครัวเรือน ในอำเภอเชียงขวัญ ได้รับความเสียหายถูกน้ำท่วม ทั้งในตำบลพลับพลา ตำบลเชียงขวัญ และตำบลพระธาตุ

นอกจากนี้ผู้สื่อข่าวรายงานว่า  ในจุดที่มีการติดตั้งเรือผลักดันน้ำ ยังพบอุปสรรคในการทำงาน เนื่องจาก เจ้าหน้าที่ต้องคอยเก็บเศษวัชพืช และดินโคลนที่ลอยมาติดเรือผลักดันน้ำ 14 ลำ จากจำนวน 35 ลำของกองทัพเรือ ที่นำมาติดตั้งที่บริเวณสะพานบ้านนาเพียง จ.นครพนม เพื่อลดผลกระทบระบายมวลน้ำท่วมใน จ.นครพนม เป็นวันที่ 10