วันนี้ (7 ส.ค.2560) นายธรรมนูญ เรืองดิษฐ์ รองเลขาธิการ คณะกรรมการป้องกันและปราปปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เปิดเผยว่า ขณะนี้ ป.ป.ช.อยู่ระหว่างการรอดำเนินการจากทนายความผู้ได้รับมอบหมาย ทำการคัดถ่ายคำพิพากษาฉบับเต็ม เพื่อทำรายงานเสนอความเห็นต่อคณะกรรมการ ป.ป.ช.พิจารณาการยื่นอุทธรณ์คดีสลายการชุมนุมกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย (พธม.) เมื่อปี 2551 หรือไม่อีกครั้ง
นายวีระ สมความคิด อดีตแกนนำกลุ่มพันธมิตรฯ กล่าวว่า เอกสารหลักฐานที่นำมาประกอบยื่นวันนี้มีน้ำหนักและเหตุผลเพียงพอที่จะยื่นอุทธรณ์ได้ ทั้งคำพิพากษาศาลปกครองกลาง คำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญ โดยพร้อมทำหน้าที่คู่ขนานไปกับ ป.ป.ช.ด้วยความคาดหวังง่าจะทำให้การยื่นอุทธรณ์ของ ป.ป.ช.สามารถดำเนินการได้ และหากท้ายที่สุดตามกรอบ 30 วัน ป.ป.ช.มีมติไม่ยื่นอุทธรณ์คดี จะใช้สิทธิเดินหน้าต่อสู้คดีทุกช่องทางของกฎหมาย โดยเตรียมมาตรการต่อไปไว้แล้ว แต่ขอไม่เปิดเผย ส่วนความเป็นกลางของขณะกรรมการ ป.ป.ช.ในการพิจารณายื่นอุทธรณ์นั้น ขอให้สังคมพิจารณาจากที่ผ่านมา เชื่อว่าสังคมรับรู้ได้
นายวีระ กล่าวอีกว่า หลังจากได้คำพิพากษาฉบับสมบูรณ์แล้ว จะศึกษาหาประเด็นที่สามารถต่อสู้คดีเพิ่มเติมและจะมายื่นต่อ ป.ป.ช.อีกครั้ง ส่วนข้อห่วงใยจาก พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ต่อการเคลื่อนไหวต่อสู้คดีของอดีตแกนนำพันธมิตรฯ โดยระบุว่า ไม่ต้องห่วงกังวล เพราะไม่ใช่การชุมนุม ไม่ได้มีการชักชวนใครมา ย้ำเคลื่อนไหวอย่างสงบ เดินหน้าต่อสู้ในกระบวนการยุติธรรม ย้อนถาม คสช.เคยทำความผิดไหม
ก่อนหน้านี้ เมื่อวันที่ 2 สิงหาคมที่ผ่านมา ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง พิพากษายกฟ้องจำเลยทั้ง 4 คนในคดีการสลายการชุมนุมกลุ่มพันธมิตรฯ เมื่อวันที่ 7 ตุลาคม 2551 การยื่นอุทธรณ์คำพิพากษาสามารถขอยื่นได้ภายใน 30 วันนับแต่วันมีคำพิพากษา
ขณะที่การรักษาความปลอดภัยรอบบริเวณสำนักงาน ป.ป.ช.เป็นไปอย่างเข้มงวด โดยมีชุดสืบสวนของ ป.ป.ช., ตำรวจ สภ.จังหวัดนนทบุรี สนธิกำลังดูแลความเรียบร้อบ พร้อมอำนวยความสะดวกให้แก่ประชาชนผู้มายื่นเรื่องร้องเรียนในวันนี้