ค้นหา
ทีวีออนไลน์
เว็บไซต์ในเครือ
เว็บไซต์บริการ

สนช.นัดพิจารณาร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ 18 มิ.ย.นี้

การเมือง
12 มิ.ย. 58
05:10
108
Logo Thai PBS
สนช.นัดพิจารณาร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ 18 มิ.ย.นี้

ประธานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) นัดประชุมสนช.เพื่อพิจารณาร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญฉบับชั่วคราว แบบ 3 วาระรวด 18 มิ.ย.นี้ ในขณะที่หน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับการทำประชามติหารือร่วมกัน โดยมีข้อสรุปให้จัดพิมพ์ใบลงประชามติตามจำนวนคำถามไม่รวมไว้ในใบเดียวเพื่อป้องกันบัตรเสีย

วันที่ 12 มิ.ย. 2558  นายพรเพชร วิชิตชลชัย ประธานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ(สนช.) ระบุว่า สนช. มีกรอบเวลาตามกฎหมายต้องพิจารณาให้แล้วเสร็จภายใน 15 วัน หรือภายในวันที่ 25 มิ.ย. จึงได้นัดประชุม สนช.พิจารณาในวันที่ 18 มิ.ย.นี้ โดยเป็นการพิจารณา 3 วาระรวด และตั้งคณะกรรมาธิการเต็มสภา นอกจากนี้จะเชิญตัวแทนจาก ครม.และ คสช. ซึ่งเป็นผู้มีอำนาจเต็มในการตัดสินใจเข้าร่วมการประชุมด้วย และในการพิจารณาอาจมีบางประเด็นต้องประชุมลับ ซึ่งขึ้นอยู่กับที่ประชุม โดยจะเปิดโอกาสให้สมาชิกได้อภิปรายอย่างเต็มที่และพยายามพิจารณาให้เสร็จภายในวันเดียว แต่หากไม่เสร็จสามารถขยายเวลาได้

ส่วนกรณีที่สมาชิกมีประเด็นที่ต้องการแก้ไขสามารถสอบถามความเห็นจากผู้แทนได้แต่หากผู้แทน ครม.และ คสช.ไม่เห็นด้วย และยืนยันตามร่างเดิมก็ต้องยึดตามร่างฯเดิมสำหรับการลงมติต้องได้รับคะแนนเสียงไม่น้อยกว่ากึ่งหนึ่งของจำนวนสมาชิกที่มีอยู่ 220 คน หรือ 110 เสียงขึ้นไป หากเสียงไม่ถึงกึ่งหนึ่งถือว่าร่างแก้ไขนี้ตกไป ส่วนวิธีลงคะแนนจะใช้แบบขานชื่อเรียงตามตัวอักษร หากผ่านความเห็นชอบจาก สนช. จะส่งให้นายกรัฐมนตรีนำขึ้นทูลเกล้าทูลกระหม่อมถวายต่อไป

ด้านนายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ระบุว่า รัฐบาลและ คสช.จะต้องส่งผู้แทนเข้าไปชี้แจง โดยนายวิษณุ จะเป็นผู้ชี้แจงในนามคณะรัฐมนตรี ส่วนการหารือกับตัวแทนหน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับการจัดทำประชามติร่างรัฐธรรมนูญเบื้องต้น จะใช้ พ.ร.บ.การออกเสียงประชามติ พ.ศ.2552 บางส่วน เช่น เรื่องของการกระทำผิด นอกจากนี้คณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.) จะจัดทำประกาศรายละเอียดขั้นตอนทั้งหมด เช่น เรื่องบัตรออกเสียง โดยจะกำหนดรายละเอียดว่า จะออกมากกว่า 1 ใบหรือไม่ เพราะหากมี 3 คำถาม แต่ใช้บัตรใบเดียวอาจเกิดปัญหาบัตรเสีย เบื้องต้นจึงน่าจะใช้บัตร 3 ใบ เป็นสีฉูดฉาด และกล่องลงคะแนนจะเป็นสีฉูดฉาดเพื่อให้เห็นชัดเจน โดยงบประมาณที่เตรียมไว้อย่างน้อยประมาณ 2,600 ล้านบาท แต่ไม่เกิน 3,000 ล้านบาท


ข่าวที่เกี่ยวข้อง