วันนี้ (10 ส.ค.2560) ผศ.ธนวรรธน์ พลวิชัย ศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้า เปิดเผยดัชนีสถานการณ์คอร์รัปชั่นไทยในเดือนมิถุนายน 2560 พบว่า ดัชนีสถานการณ์คอร์รัปชันไทย อยู่ที่ระดับ 53 ลดลงจากการสำรวจเมื่อเดือนธันวาคม 2559 ที่อยู่ที่ระดับ 55 ส่วนค่าดัชนีแนวโน้มสถานการณ์คอร์รัปชันไทย อยู่ที่ระดับ 54 ลดลงจากการสำรวจครั้งก่อนที่อยู่ที่ระดับ 57 เนื่องจากรัฐบาลกำลังมีโครงการก่อสร้างขนาดใหญ่และโครงการลงทุนภาคตะวันออก (อีอีซี) ซึ่งจะมีการเปิดประมูล แต่ขณะที่การบังคับใช้กฎหมายของภาครัฐยังไม่เข้มงวดและจริงจัง ประชาชนจึงกังวลว่า อาจจะมีการฮั่วประมูลในอนาคต
ส่วนผลสำรวจการจ่ายเพิ่มใต้โต๊ะให้กับเจ้าหน้าที่ภาครัฐเพื่อให้ได้งาน หรือสัญญา พบว่า จำนวนผู้ประกอบการที่ตอบว่าไม่จ่าย สูงถึงร้อยละ 59 สูงสุดในรอบ 8 ปี แต่ยอมรับว่าสัดส่วนเม็ดเงินจ่ายใต้โต๊ะกลับสูงขึ้น เฉลี่ยอยู่ที่ร้อยละ 5-15 ของงบประมาณ สูงขึ้นจากการสำรวจครั้งก่อนอยู่ที่ร้อยละ 1-15 คาดว่าจะสร้างความเสียหายต่องบประมาณ 65,000-196,000 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วนต่อจีดีพี ประมาณ ร้อยละ 0.4-1.3
ขณะที่ผลสำรวจขององค์การเพื่อความโปร่งใสนานาชาติ พบว่า ภาพลักษณ์คอร์รัปชันของไทยปรับลดลงมาอยู่อันดับที่ 101 จากทั้งหมด 176 ประเทศ เดิมอยู่ที่อันดับ 76 เพราะการประเมินครั้งนี้นำเรื่องการเมืองและประชาธิปไตยเข้ามารวมด้วย ส่วนดัชนีการสร้างจริยธรรมและจิตสำนึกดีขึ้น มาอยู่ที่ระดับ 60 จากระดับ 58 และคะแนนความสามารถที่จะทานทนต่อการทุจริตคอร์รัปชัน ปรับดีขึ้น สะท้อนว่าคนไทยตระหนักกับปัญหาคอร์รัปชันมากขึ้น