กรณีปัญหา 2 เด็กไร้สัญชาติเมียนมา ที่ได้คัดเลือกเป็นตัวแทนจากภาคเหนือ เข้าการแข่งขันเครื่องบินกระดาษพับชิงแชมป์ประเทศไทย ครั้งที่ 14 จัดโดยองค์การพิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์แห่งชาติ หรืออพวช. แต่อาจมีปัญหาเรื่องขอรับรองสถานะบุคคลตามกฎหมาย
โดยเด็กทั้ง 2 คนเป็นลูกสิทธิ์ของครูหม่อง ทองดี ชื่อนี้โด่งดังเมื่อ 8 ปีที่แล้ว จากไปคว้าแชมป์โลกพับเครื่องบินกระดาษจากญี่ปุ่น จนทำให้เคยได้รับคำมั่นสัญญาจากนักการเมือง รัฐมนตรี ทั้งการเป็นยุวทูตวิทยาศาสตร์ ทุนเรียนถึงปริญญาเอก ไปถึงการให้สัญชาติ
การได้สัญชาติ คือใบเบิกทางที่ทำให้หม่องเดินทางไปไหนได้สะดวก เป็นโอกาสทางการศึกษา ซึ่งหมายถึงอาชีพในอนาคต แต่จนถึงขณะนี้หม่องยังไม่ได้สัญชาติ เนื่องจากยังไม่มีสถานะเป็นนักศึกษา
หม่อง ทองดี อดีตแชมป์พับเครื่องบินกระดาษประเทศไทย วัย 20 ปี ชาวจังหวัดเชียงใหม่ เปิดใจกับไทยพีบีเอส ถึงการต่อสู้เพื่อให้ได้สัญชาติไทยมานานกว่า 8 ปีว่า ชีวิตของเด็กชายหม่อง ทองดีในตอนนั้นเปลี่ยนไปอย่างรวดเร็ว หลังจากที่ได้รางวัลที่ 3 พับเครื่องบินกระดาษที่ประเทศญี่ปุ่น
เขาก็ได้รับความสนใจจากคนไทย รวมถึงรัฐบาลนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ที่รับปากว่าจะให้สัญชาติไทย และนั้นคือจุดเริ่มต้นที่ทำให้หม่อง เดินหน้าจะเป็นคนไทยสมบูรณ์แบบ แม้พ่อ-แม่จะเป็นผู้อพยพหนีภัยมาจากรัฐฉาน ประเทศเมียนมา
หม่อง บอกว่า ผ่านมา 8 ปี แล้ว เขายังไม่ได้สัญชาติไทยตามที่หลายคนเข้าใจ แต่เรื่องก็คืบหน้าไปมาก มีโอกาสที่จะได้เป็นคนไทย ซึ่งต้องกลับไปเรียนหนังสือ เพื่อให้ได้สถานะนักศึกษาก่อนทำเรื่องยื่นหนังสือต่อกระทรวงมหาดไทย เพื่อขอสัญชาติไทย แต่กว่าจะมาถึงขั้นตอนนี้ ก็ไม่ใช่เรื่องง่ายสำหรับหม่องและครอบครัว จนบางคนเขาก็คิดว่าได้สัญชาติไทยแล้ว
ขณะที่นักวิชาการด้านสิทธิมนุษยชน ระบุว่า โอกาสที่หม่องจะได้รับรองสัญชาติได้ไม่น่าจะเกิน 1 ปี นี้ แต่ก็ขึ้นอยู่กับว่าหม่องจะดำเนินเรื่องการศึกษาต่อได้เร็วแค่ไหน ทำให้เรื่องรับรองสัญชาติของหม่องคืบหน้าไปมาก