วานนี้ (29 ส.ค.2560) คณะรัฐมนตรีเห็นชอบสวัสดิการผู้มีรายได้น้อยที่จะอยู่ในบัตรสวัสดิการตามผู้มีสิทธิ์จากการลงทะเบียน 11.67 ล้านคน แบ่งสวัสดิการเป็น 2 ส่วน คือ ลดค่าใช้จ่ายในครัวเรือน มีวงเงินค่าซื้อสินค้าอุปโภคบริโภคที่จำเป็น สินค้าเพื่อการศึกษาและวัตถุดิบเพื่อเกษตรกรรม จากร้านธงฟ้าประชารัฐและร้านอื่นๆที่กระทรวงพาณิชย์กำหนด
หากมีรายได้ต่ำกว่า 30,000 บาทต่อปี หรืออยู่ใต้เส้นความยากจนจะได้ 300 บาทต่อคนต่อเดือน และหากรายได้สูงกว่า 30,000 บาท แต่ไม่เกิน 100,000 บาทต่อปี จะได้ 200 บาทต่อคนต่อเดือน ส่วนวงเงินส่วนลดค่าซื้อก๊าซหุงต้ม จากร้านค้าที่กระทรวงพลังงานกำหนดจะได้ 45 บาทต่อคนต่อ 3 เดือน ส่วนที่ 2 จะเป็นการลดค่าใช้จ่ายในการเดินทาง ค่าโดยสารรถเมล์และรถไฟฟ้า ค่าโดยสารรถ เเละ ค่าโดยสารรถไฟ อย่างละ 500 บาทต่อคนต่อเดือน โดยรัฐจะทยอยเเจกบัตรสวัสดิการให้ผู้ที่ได้รับสิทธิ์ วันที่ 21 ก.ย. เเละเริ่มใช้บัตรสวัสดิการได้ในวันที่ 1 ต.ค. 60
สำหรับผู้ที่มีสิทธิ์ทั้งหมด 11 ล้านกว่าคน ในจำนวน 1.3 ล้านคน มี 2 ชิปการ์ดในบัตรสวัสดิการ เพราะจะเป็นผู้มีรายได้น้อยที่ใช้บริการรถเมล์ อาศัยอยู่ในเขตกรุเทพและปริมณฑล 6 จังหวัด ได้แก่ นนทบุรี ปทุมธานี อยุธยา สมุทรปราการ สมุทรสาคร และนครปฐม ที่เหลือเป็น 1 ชิปการ์ด
นอกจากนี้ ในอีก 1-2 สัปดาห์ กระทรวงการคลังโดยสำนักงานเศรษฐกิจการคลังจะเสนอ ครม.เห็นชอบ สวัสดิการผู้มีรายได้น้อยในระยะที่ 2 ซึ่งจะเป็นการเพิ่มรายได้ผ่านการโอนเงินภาษีให้ผู้มีรายได้น้อยแต่มีเงื่อนไขว่าผู้มีรายได้น้อยต้องมีการพัฒนาความรู้ พัฒนาอาชีพ โดยจะประสานกระทรวงแรงงานเข้ามาร่วมดำเนินการด้วย ส่วนแนวทางการช่วยเหลือด้านน้ำประปา ไฟฟ้า ทั้ง 2 หน่วยงานยังช่วยเหลือประชาชนแบบเดิมไปก่อนยังไม่เปลี่ยนแปลง