วันนี้ (31 ส.ค.2560) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า มติ ป.ป.ช.ให้ยื่นอุทธรณ์ต่อศาลคดีสลายการชุมนุมกลุ่มพันธมิตรฯ ปี 2551 แต่ ป.ป.ช.จะยื่นอุทธรณ์เฉพาะจำเลยที่ 4 คือ พล.ต.ท.สุชาติ เหมือนแก้ว เนื่องจากได้สั่งให้ผู้ใต้บังคับบัญชาใช้อาวุธสลายการชุมนุม บริเวณหน้ารัฐสภา หน้ากองบัญชาการตรวจนครบาลและพื้นที่ใกล้เคียง
ป.ป.ช.มีมติไม่ยื่นอุทธรณ์จำเลยที่ 1 - 3 ประกอบด้วย นายสมชาย วงสวัสดิ์ อดีตนายกรัฐมนตรี พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ และ พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ เนื่องจากเห็นด้วยกับคำพิพากษาของศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง และเป็นไปตามมติเสียงข้างมากของ กรรมการ ป.ป.ช. ที่ลงมติ 7 เสียง เสียงข้างน้อย 1 เสียง และงดออกเสียง 1 เสียง แต่กรรมการ ป.ป.ช.เสียงส่วนใหญ่ ไม่เห็นด้วยกับคำพิพากษาในประเด็นของ พล.ต.ท.สุชาติ เหมือนแก้ว
ป.ป.ช. ยืนยันว่า ผู้บัญชาเหตุการณ์สลายการชุมนุมในขณะนั้น มีอำนาจสั่งและบัญชาการตำรวจในสังกัดด้วยการใช้แผนรักษาความสงบ ที่เรียกว่า "กรกฎ 48" ตั้งแต่เวลา 18.00 น.ของวันที่ 7 ตุลาคม 2551 ถึงเวลาประมาณ 19.00 น.
ตำรวจได้ขว้างระเบิดและแก๊สน้ำตาใส่ผู้ชุมนุมทำให้มีผู้บาดเจ็บและเสียชีวิต จำเลยที่ 4 ไม่ได้สั่งให้ระงับยับยั้ง หรือปรับเปลี่ยนวิธีการ ป.ป.ช.จึงเห็นว่าเป็นการฎิบัติหน้าที่ หรือ ละเว้นการปฎิบัติหน้าที่โดยมิชอบ