วันนี้ (6 ก.ย.2560) พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ระบุว่า การเดินทางไปประชุมร่วมคณะรัฐมนตรีไทย -กัมพูชา ในวันที่ 7 ก.ย.นี้ มีหลายประเด็นที่ต้องหารือกัน เช่น การสัญจรข้ามแดน การค้ามนุษย์ และการเกษตร
ส่วนโครงการโรงไฟฟ้าสตึงนัมขนาด 24 เมกะวัตต์ ในกัมพูชา ซึ่งจะเป็นการลงทุนของบริษัทไทยกับรัฐบาลกัมพูชา ขณะนี้ได้สั่งชะลอออกไปก่อน เพื่อศึกษาความเป็นไปได้ และประโยชน์ที่จะได้รับ เพราะทั้งไทยและกัมพูชา ต่างก็ต้องพิจารณาถึงประโยชน์ที่แต่ละประเทศจะได้รับ ยืนยันการพิจารณาจะไม่ได้เป็นไปเพื่อเอื้อประโยชน์ให้ใคร
“ เราไม่รู้จักใครทั้งสิ้น ไม่ว่าใครจะนั่งทำงานตรงหน้าห้องใคร ห้องไหน เครือญาติ บริษัทไม่รู้จัก ไม่มีส่วนตัว ไปเขียนเลอะเทอะ และคนอนุมัติคือนายกรัฐมนตรี ถ้าไม่อนุมัติก็จบ” พล.อ.ประยุทธ์ ระบุ
ด้านนายประเสริฐ สินสุขประเสริฐ รองผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน หรือ สนพ. ยืนยันว่าไทยและกัมพูชา ยังไม่มีการลงนามเอ็มโอยู ในโครงการโรงไฟฟ้าพลังน้ำสตึงนัม ของกัมพูชา อย่างที่เป็นข่าว เพราะกระทรวงพลังงาน ได้ชะลอโครงการไว้ก่อน เพื่อรอการศึกษาของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ถึงแนวทางการบริหารจัดการน้ำ
โครงการนี้ จะเป็นการจัดซื้อไฟฟ้าพร้อมน้ำจากเขื่อนสตึงนัม โดยได้น้ำจากโครงการขั้นต่ำ 300 ล้านลูกบาศก์เมตรต่อปี เพื่อส่งน้ำมายังอ่างเก็บน้ำประแสร์ จ.ระยอง หล่อเลี้ยงภาคอุตสาหกรรมในภาคตะวันออก ที่เคยประสบปัญหาขาดแคลน และรองรับโครงการเขตเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก หรือ อีอีซี
รองผู้อำนวยการ สนพ.ยังชี้แจงถึงเหตุผลถึงต้นทุนค่าไฟฟ้าจากโครงการสตึงนัม ที่มีอัตราสูงถึง 10.75 บาทต่อหน่วย จนเกิดกระแสวิจารณ์ในวงกว้างว่า โครงการนี้ไทยมีวัตถุประสงค์หลักคือเรื่องน้ำ ดังนั้นจึงมีต้องมีการลงทุนสร้างเขื่อนเก็บน้ำขนาดใหญ่ ที่ใช้เงินลงทุนกว่าหมื่นล้านบาท รวมทั้งต้องมีการลงทุนระบบท่อส่งน้ำให้รองรับ กับการนำมาใช้ ส่วนไฟฟ้าที่จะได้จากโครงการ 24 เมกะวัตต์ จะนำมาช่วยเสริมระบบในจ.ตราด และจันทบุรี ที่อยู่ปลายสายส่ง ซึ่งปัจจุบันมีปัญหาไฟตกในบางช่วง
แต่ล่าสุด พล.อ.ฉัตรชัย สาลิกัลยะ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ยืนยันว่า สามารถบริหารจัดการน้ำในพื้นที่ภาคตะวันออกได้ถึง 12 ปี โดยไม่ต้องซื้อน้ำจากโครงการนี้ ทำให้ นายกรัฐมนตรี สั่งชะลอโครงการออกไปก่อน
สำหรับการเดินทางเยือนกัมพูชา คณะของ พล.อ.ประยุทธ์ ประกอบด้วย พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม พล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง รองนายกรัฐมนตรี นายอภิศักดิ์ ตันติวรวงศ์ รมว.การคลัง นายดอน ปรมัตถ์วินัย รมว.การต่างประเทศ นางกอบกาญจน์ วัฒนวรางกูร รมว.การท่องเที่ยวและกีฬา พล.อ.ฉัตรชัย สาริกัลยะ รมว.เกษตรและสหกรณ์ พล.อ.อนุพงศ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย และพล.อ.ศิริชัย ดิษฐกุล รมว.แรงงาน