พายุมาเรีย กลายเป็นพายุเฮอร์ริเคนขนาดใหญ่ลูกที่ 2 ในรอบหลายสัปดาห์ที่จะพัดถล่มเกาะในทะเลแคริบเบียน ซึ่งหลายพื้นที่เพิ่งจะได้รับความบอบช้ำอย่างหนักจากพายุเออร์มา ซึ่งเป็นเฮอร์ริเคนระดับ 5 ที่พัดถล่มในก่อนหน้านี้ ทำให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 37 คน สร้างความเสียหายเป็นมูลค่าหลายพันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ
ศูนย์เฮอร์ริเคนแห่งชาติสหรัฐฯ รายงานว่า พายุมาเรียทวีความรุนแรงเป็นเฮอร์ริเคนระดับ 3 มีความเร็วลม 195 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ขณะมุ่งหน้าไปยังหมู่เกาะลีเวิร์ดโดยเคลื่อนตัวไปในทิศทางเดียวกับพายุเฮอร์ริเคนเออร์มา และคาดว่าจะพัดเข้าหมู่เกาะลีเวิร์ดคืนวันจันทร์ตามเวลาท้องถิ่น และมีการประกาศเตือนภัยเฮอร์ริเคนครอบคลุมพื้นที่ตั้งแต่หมู่เกาะกัวเดอลุป ดอมินีกา, เซนต์ คิทท์ส,เซนต์ ลูเซีย รวมทั้งหมู่เกาะยูเอสและบริติช เวอร์จิน
นอกจากนี้ พื้นที่ที่ต้องเฝ้าจับตาเฮอร์ริเคนได้แก่เปอร์โต ริโก ,เซนต์ มาร์ติน และเซนต์ บาร์ท โดยเฉพาะเปอร์โตริโก ประชาชนต่างเตรียมรับมือพายุ เสริมความแข็งแรงให้กับอาคารบ้านเรือน และซื้อข้าวของที่จำเป็นมาสำรอง ทำให้ปั๊มน้ำมันและซุเปอร์มาร์เกตมีคนมาเข้าคิวรอเติมน้ำมันและซื้อของเป็นแถวยาว
ขณะที่ ประเทศโรมาเนีย เกิดพายุรุนแรงในพื้นที่ทางภาคตะวันตก โดยเมืองทิมิโชวอารา เป็นบริเวณที่ได้รับความเสียหายมากที่สุด มีรายงานผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 8 คน และได้รับบาดเจ็บอีก 140 คน