แม้ว่าผลการเลือกตั้งของเยอรมนีจะเป็นไปตามคาดแต่ชาวเยอรมนีหลายคนกลับรู้สึกผิดหวังเมื่อทราบว่าพรรคอัลเทอร์เนทีฟ ฟอร์ เยอรมนีหรือเอเอฟดี (AfD) ซึ่งเป็นพรรคการเมืองชาตินิยมที่มีนโยบายต่อต้านศาสนาและผู้อพยพ ได้ก้าวเข้ามามีบทบาทในรัฐสภาเป็นครั้งแรกในรอบกว่า 50 ปี หลังได้เสียงสนับสนุนมากพอและทำได้ดีเกินคาดในการเลือกตั้งครั้งนี้
ชาวเยอรมนีบางคนบอกว่า การเข้ามามีบทบาททางการเมืองของพรรคเอเอฟดีถือเป็นเรื่องที่น่าสลดใจ ขณะที่หลายคนแสดงความผิดหวังกับผลการเลือกตั้งที่จะทำให้เกิดรัฐบาลผสมแบบไม่ลงตัว รวมทั้งการที่พรรคเอเอฟดีทำคะแนนได้ดีเกินคาด ซึ่งถือเป็นหายนะอย่างแท้จริง
ขณะที่การเมืองอย่างพรรคกรีนซึ่งมีคะแนนตามมาเป็นอันดับ 5 แม้จะพอใจกับผลคะแนนที่ออกมา แต่ก็บอกว่าเป็นวันที่เศร้าที่สุดในประวัติศาสตร์ เมื่อพรรคเอเอฟดีก้าวเข้ามามีบทบาททางการเมือง ซึ่งเท่ากับว่านาซีและพวกเหยียดเชื้อชาติจะได้เข้ามาในรัฐสภา
ขณะที่พรรคซ้าย (Die Linke) ซึ่งมีคะแนนรั้งท้ายอันดัยบ 6 กล่าวตำหนิว่าเป็นความผิดของพรรคสหภาพประชาธิปไตยคริสเตียน (CDU-CSU) ภายใต้การนำของนางอังเกลา แมร์เคลที่ทำให้พรรคเอเอฟดีประสบควมมสำเร็จในการเลือกตั้งครั้งนี้
ทั้งนี้แม้จะครองเก้าอี้นายกรัฐมนตรีได้เป็นสมัยที่ 4 แต่นางแมร์เคลก็จะต้องเผชิญกับปัญหาและอุปสรรคที่ท้าทายอย่างมาก โดยเฉพาะการจัดตั้งรัฐบาลผสมแบบสามทางระหว่างพรรคการเมืองที่มีแนวต่างกัน โดยแมร์เคลกล่าวยอมรับกับผู้สนับสนุนว่าหลายสัปดาห์ต่อจากนี้ ไม่ใช่เรื่องง่าย ซึ่งก็คงต้องติดตามดูกันต่อไปว่ารัฐบาลชุดใหม่ของเยอรมนีจะออกมารูปไหน