นายเจน นำชัยศิริ ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย ระบุ ประเด็นที่เอกชนไทยต้องการให้มีการปลดล็อก คือ ปัญหาการค้ามนุษย์ที่สหรัฐฯจัดอันดับให้ไทยอยู่ในระดับเทียร์ 2 และการปลดธงแดงขององค์การการบินพลเรือนระหว่างประเทศ (ICAO) ซึ่งเป็นโอกาสที่ดีที่ไทยจะได้ชี้แจงความคืบหน้าให้สหรัฐฯได้รับทราบ
ส่วนประเด็นที่มีข่าวว่า สหรัฐฯจะยอมปลดล็อกปัญหาค้ามนุษย์และธงแดงเพื่อแลกกับการเปิดให้สหรัฐฯนำเข้าเนื้อหมูที่มีการใช้สารเร่งเนื้อแดงนั้น ขณะนี้ยังไม่มีความชัดเจนแต่เชื่อว่าการเจรจาการค้าจะมีทั้งได้และเสีย
ขณะที่ น.ส.กรรณิการ์ กิจติเวชกุล รองประธานกลุ่มศึกษาข้อตกลงเขตการค้าเสรีภาคประชาชน (FTA Watch) แสดงความกังวลว่าจะมีการกดดันไทยไม่ให้มีการแบนการใช้สารเคมีอันตราย การเร่งให้ไทยออกสิทธิบัตร ทั้งที่ไม่มีนวัตกรรมใหม่ รวมไปถึงการเจรจาเปิดให้มีการนำเข้าเนื้อสุกรและชิ้นส่วน ซึ่งจะกระทบกับเกษตรกรรายย่อยและผู้บริโภคเพราะก่อให้เกิดสารตกค้างที่ก่อมะเร็งโดยขอให้รัฐบาลทบทวน
ขณะที่ในมุมมองของนายชัยชาญ เจริญสุข เลขาธิการ สภาผู้ส่งออกสินค้าทางเรือแห่งประเทศไทยเห็นว่าจะเป็นผลดีต่อการส่งออกของไทยโดยเฉพาะสินค้าไทยจะกลายเป็นอีก 1 ทางเลือกให้กับสหรัฐฯนอกเหนือจากจีน
ทั้งนี้ ตัวเลขการส่งออกในเดือน ส.ค.2560 ของสภาผู้ส่งออกสินค้าทางเรือฯ พบว่า ไทยมียอดส่งออกสหรัฐฯ เป็นอันดับที่ 3 รองจากจีน มียอดส่งออกเติบโต ร้อยละ 7.40 มีมูลค่าส่งออก 2,406 ล้านเหรียญสหรัฐ มีแนวโน้มเติบโตได้ต่อเนื่องตามการฟื้นตัวของเศรษฐกิจสหรัฐฯ ด้วย