เปิดเบื้องหลังคำสั่งเด้ง "ชลธิศ สุรัสวดี" ศึกชิงเก้าอี้อธิบดีกรมป่าไม้

วันนี้ (5 ต.ค.2560) นายชลธิศ สุรัสวดี อธิบดีกรมป่าไม้ เปิดใจแถลงครั้งแรกหลังจากคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 3 ต.ค.ที่ผ่านมา มีคำสั่งให้ไปดำรงตำแหน่งที่ปรึกษาพิเศษประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ตามข้อ 1 วรรคหนึ่ง ของคำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ที่ 16/2558 เรื่อง มาตรการแก้ปัญหาเจ้าหน้าที่ของรัฐที่อยู่ระหว่างการถูกตรวจสอบและการกำหนดกรอบอัตรากำลังชั่วคราว ลงวันที่ 15 พ.ค. 2558 ตั้งแต่วันที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมแต่งตั้งเป็นต้นไป โดยผู้มีอำนาจสั่งบรรจุทั้งสองฝ่ายได้ตกลงยินยอมในการโอนแล้ว

นายชลธิศ บอกว่า ตั้งแต่ถูกคำสั่งดังกล่าวครบ 48 ชั่วโมง มีคนสอบถามเข้ามามาก ทั้งกลุ่มองค์กรพัฒนาเอกชน นักอนุรักษ์ ที่อยากรู้ถึงสาเหตุที่แท้จริงของคำสั่งยัายครั้งนี้และอยากฟังคำชี้แจง จึงใช้โอกาสนี้ตอบให้สังคมรับทราบทั่วกัน

ยืนยันว่าไม่ได้แถลงเพื่อเรียกร้องให้ตัวเองกลับมาในตำแหน่งอธิบดีกรมป่าไม้ แต่ต้องการขอความเป็นธรรมให้กับตัวเอง เพราะถูกกล่าวหาว่าถูกย้ายไปเพราะถูกร้องเรียนว่าประพฤติมิชอบ มีปัญหาทุจริต ซึ่งถูกบิดเบือนข้อเท็จจริง สร้างความเสื่อมเสียให้กับข้าราชการกรมป่าไม้ ซึ่งต้องขอโทษข้าราชการกรมป่าไม้ทุกคนด้วย และต้องการยืนยันความบริสุทธ์ในความตั้งใจทำงานอย่างไม่มีผลประโยชน์ทับซ้อน

 

งัดหลักฐานสยบ "ปม" รับเงินให้นายทุนสร้างสนามบินพังงา

นายชลธิศ บอกว่า กรณีที่มีการกล่าวหาว่า เรียกรับเงินและเอื้อนายทุนสร้างสนามบินพังงา ในป่าสงวนแห่งชาติป่าคลองทุ่งมะพร้าว จ.พังงา รวมพื้นที่ 2,000 ไร่ เวลา 30 ปี ยืนยันว่าเป็นไปไม่ได้ เนื่องจากยังอยู่ในขั้นตอนการอนุมัติ และการอนุญาตจากหลายหน่วยงาน รวมทั้งขั้นตอนของการศึกษารายงานการวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อม หรือ อีไอเอ ซึ่งต้องใช้เวลามากกว่า 1 ปี และพื้นที่ที่จะมีการก่อสร้างสนามบิน ก็มีความคาบเกี่ยวในพื้นที่ป่าชายเลน ที่ทางกรมป่าไม้ ได้ทำหนังสอบถามไปยังกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง หรือ ทช.สำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม หรือ สผ.เพื่อตรวจสอบการใช้พื้นที่ว่าเป็นไปตามระเบียบหรือไม่และทางทช.แล้ว ยืนยันว่าไม่ใช่เป็นพื้นที่ป่าชายเลน ตามมติ ครม.

หลังจากนั้นจึงมีหนังสือจากกรมป่าไม้ ไปยังผู้ว่าราชการจังหวัดพังงาว่าบริษัทการบินกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) ได้ขออนุญาตก่อสร้างสนามบินภายในป่าสงวนแห่งชาติ ป่าคลองทุ่งมะพร้าวว่า เอกสารไม่ครบถ้วน ต้องรับฟังความเห็นของชาวบ้านว่ามีการคัดค้านจากประชาชนในพื้นที่หรือไม่ รวมทั้งต้องทำอีไอเอก่อน ซึ่งก็ได้ทำหนังสือไปยังปลัดกระทรวงทรัพยากร และ สผ. เพื่อตรวจสอบในกรณีนี้ด้วย จึงถือว่าไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้อง หรือจะมีอะไรแอบแฝงกับเรื่องนี้เลย 

และจากการสอบถามไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวกับการรับเรื่องร้องเรียน และตรวจสอบทุจริตทั้ง ป.ป.ช.กรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือ ดีเอสไอ และศูนย์อำนวยการต่อต้านการทุจริตแห่งชาติ หรือ. ศอตช.ก็ยังยืนยันว่าไม่มีข้อร้องเรียนใดๆ เข้ามา

ยอมรับถูกโยงแก๊ง "เอฟ - 4" - เลื่อยเก้าอี้

เมื่อถามว่ามีข้าราชการภายในกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม หรือ ทส. เลื่อยเก้าอี้จริงหรือไม่ นายชลธิศ ยอมรับว่ามีความเป็นไปได้ ที่ผ่านมาตัวเองได้รับฉายาร่วมกับเพื่อนข้าราชการว่าเป็นแก๊งเอฟ-4 ที่ต่อต้านการทำงานของผู้บริหารกระทรวงทรัพยากร คือมีนายสากล ฐินะกุล นายเสริมยศ สมมั่น และนางภาวินี ปุณณกันต์ ซึ่งเป็นเรื่องที่ถูกบุคคลบางคนบิดเบือนข้อมูลไปรายงานกับ พล.อ.สุรศักด์ กาญจนรัตน์ รัฐมนตรี ทส. ส่วนข้าราชการภายในกรมป่าไม้ ก็การันตีได้ว่าไม่มีปัญหากัน

อย่างไรก็ตาม มองว่าปัญหาของการถูกย้ายมาจากการทำงานอย่างตรงไปตรงมา โดยเฉพาะการรื้อรีสอร์ทของกลุ่มทุนหลายพื้นที่ ทั้งภูทับเบิก เขาค้อ จ.เพชรบูรณ์ กลุ่มทุนในพื้นที่พังงา ภูเก็ต กลุ่มทุนพื้นที่เชียงใหม่ ซึ่งไม่รู้เลยว่าถูกคนกลุ่มนี้ที่เสียประโยชน์และมีการส่งข้อมูลที่บิดเบือนไปยังกลุ่มคนบางคนในกระทรวงทำให้นำข้อมูลมาให้ข้าราชการบางคนนำข้อมูลที่เป็นเท็จไปเสนอรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจนเกิดความเข้าใจผิด จากนี้จะเดินหน้าสืบหน้าข้อเท็จจริงว่าบุคคลใดนำข้อมูลภายในของกรมป่าไม้ออกไปเผยแพร่ภายนอกองค์กร

 

พรุ่งนี้ (6 ต.ค.) ยื่นขอความเป็นธรรม

นายชลธิศ บอกว่า ในวันพรุ่งนี้ (6ต.ค.) จะยื่นหนังสือที่ทำเนียบรัฐบาลผ่าน นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี เพื่อขอความเป็นธรรมจากการปฏิบัติหน้าที่อธิบดีกรมป่าไม้เกี่ยวกับมติคณะรัฐมนตรีมีคำสั่งโอนย้ายไปช่วยงานสำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี และพร้อมพิสูจน์ตัวเองในประเด็นที่ถูกกล่าวหา

อย่างไรก็ตาม จนตอนนี้ยังไม่มีการพูดคุยหรือติดต่อกับ พล.อ.สุรศักดิ์ ส่วนปลัด ทส.ได้เพียงแค่ส่งสติกเกอร์ไลน์ว่า "สู้ๆ"

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การแถลงเปิดใจครั้งนี้ มีข้าราชการประมาณ 200 คน เข้ามารับฟังการชี้แจงของอธิบดีกรมป่าไม้และให้กำลังใจ นอกจากนี้ กรมป่าไม้ ยังได้นำหลักฐานกรณีการขออนุญาตก่อสร้างสนามบินในป่าสงวนแห่งชาติป่าคลองทุ่งมะพร้าว จ.พังงา รวมพื้นที่ 2,000 ไร่ กำหนดเวลา 30 ปี มาแสดงให้สื่อดูถึงรายละเอียด ขั้นตอนต่างๆ เพื่อยืนยันว่ายังไม่มีการอนุมัติใดๆเกิดขึ้น