วานนี้ (15 พ.ย.) กองทัพซิมบับเวออกแถลงการณ์ผ่านสถานีโทรทัศน์ซีบีซี หลังบุกยึดสถานีโทรทัศน์แห่งชาติของซิมบับเวและควบคุมตัวประธานาธิบดีโรเบิร์ต มูกาเบ ประธานาธิบดีซิมบับเววัย 93 ปีเอาไว้ รวมถึงนำกำลังทหารออกไปประจำการตามจุดต่างๆ ทั่วกรุงฮาราเร ยืนยันว่า นี่ไม่ใช่การทำรัฐประหาร ไม่ใช่การยึดอำนาจ แต่เป็นการตามล่าอาชญากรที่สร้างความเสียหายให้กับประเทศ มีรายงานว่าประธานาธิบดีของแอฟริกาใต้ได้พูดคุยกับผู้นำซิมบับเวแล้วและทราบว่าเขาถูกทหารควบคุมตัวอยู่ที่บ้านพัก ซึ่งตอนนี้ปลอดภัยดี
สหภาพแอฟริกันระบุว่า การกระทำของกองทัพซิมบับเว ที่ยึดอำนาจและควบคุมตัวประธานาธิบดีเอาไว้ดูเหมือนจะเป็นการก่อรัฐประหาร พร้อมกับเรียกร้องให้กลับคืนสู่สภาวะปกติและปฏิบัติตามรัฐธรรมนูญในทันที
สื่อตะวันตกวิเคราะห์ว่าที่กองทัพซิมบับเวไม่ยอมรับว่าการกระทำของตนเป็นการก่อรัฐประหาร เพราะว่าไม่อยากเป็นเหมือนอียิปต์ที่ถูกถูกขับออกจากสหภาพแอฟริกา หลังเกิดรัฐประหารเมื่อปี 2556
ประธานาธิบดีโรเบิร์ต มูกาเบ ดำรงตำแหน่งผู้นำประเทศมาตั้งแต่ปี 2523 จนถึงปัจจุบัน เป็นเวลา 37 ปีนับตั้งแต่ซิมบับเวหลุดพ้นจากการปกครองของอังกฤษ ความตึงเครียดทางการเมืองในซิมบับเวเริ่มขึ้น หลังจากมีกระแสข่าวว่ามูกาเบมีสุขภาพย่ำแย่ ทำให้เกิดการชิงตำแหน่งทายาททางการเมืองระหว่างรองประธานาธิบดีกับสตรีหมายเลขหนึ่งขึ้น และในที่สุดเกรซ มูกาเบ วัย 52 ปี ภริยาของผู้นำประเทศก็เป็นฝ่ายชนะ
ก่อนหน้านี้ประธานาธิบดีมูกาเบได้สั่งปลด เอมเมอร์สัน เอ็มนันกากวา อดีตรองประธานาธิบดีแบบสายฟ้าแลบเมื่อช่วงต้นเดือนที่ผ่านมา โดยกล่าวหาว่าเขาพยายามจะทำรัฐประหาร จากนั้นพรรคสหภาพแห่งชาติแอฟริกาแห่งซิมบับเวของประธานาธิบดีมูกาเบ ได้กล่าวหาว่า พล.อ.คอนสแตนติโน ชิเวนกา ผู้บัญชาการกองทัพซิมบับเว เป็นกบฏด้วยการปลุกปั่นให้เกิดการต่อต้านอำนาจรัฐ จนนำมาสู่การยึดอำนาจครั้งนี้
ด้านคุดไซ ชิปังกา ผู้นำเยาวชนพรรคซานู-พีเอฟ พรรครัฐบาลของซิมบับเว ซึ่งเป็นผู้สนับสนุนประธานาธิบดีมูกาเบและภริยา ได้ออกมาแถลงการณ์ผ่านสถานีโทรทัศน์ ขอโทษผู้บัญชาการกองทัพซิมบับเวที่เคยกล่าวหาว่ากองทัพล้มล้างรัฐธรรมนูญ โดยบอกว่า เขามีหน้าที่ปกป้องการปฏิวัติและผู้นำประเทศด้วยชีวิต