ความคืบหน้ากรณีครอบครัวของนายภคพงศ์ ตัญกาญจน์ นักเรียนเตรียมทหาร (นตท.) ชั้นปีที่ 1 ได้ร้องขอความเป็นธรรมกรณีบุตรชายเสียชีวิตเมื่อวันที่ 17 ต.ค.ที่ผ่านมาและจากการชันสูตรศพรอบที่ 2 จากสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ (นิติเวช) โรงพยาบาลธรรมศาสตร์ พบว่าอวัยวะที่สำคัญภายในร่างกายหายไปทั้งหมด โดยไม่มีเอกสารชี้แจงจากทางโรงเรียนเตรียมทหาร
วันนี้ (21 พ.ย.2560) เมื่อเวลา 16.30 น.พล.ท.ณตฐพล บุญงาม โฆษกกองทัพไทยนำทีม ผู้บัญชาการโรงเรียนเตรียมทหาร พร้อมคณะแพทย์จากสถาบันพยาธิวิทยา ศูนย์อำนวยการแพทย์พระมงกุฎเกล้า กรมแพทย์ทหารบก ร่วมแถลงข่าวกรณีที่ครอบครัวสงสัยการผ่าชันสูตรรอบที่ 2 และอวัยวะสำคัญหลายส่วนหายไป โดยยืนยันว่าการแถลงข่าวไม่ใช่การตอบโต้แต่เป็นการชี้แจงให้สังคมเข้าใจ ทั้งนี้ กองบัญชาการกองทัพไทยรู้สึกเสียใจอย่างสุดซึ้ง ต่อการสูญเสียทรัพยากรอันมีค่ายิ่งของกองทัพ ซึ่งถือเป็นอนาคตของกองทัพ
พล.ต.กนกพงษ์ จันทร์นวล ผู้บัญชาการโรงเรียนเตรียมทหาร กล่าวว่า ได้เข้าพบ พล.อ.ธารไชยยันต์ ศรีสุวรรณ ผู้บัญชาการทหารสูงสุด (ผบ.ทสส.) ที่กองบัญชาการกองทัพไทย เพื่อชี้แจงรายละเอียดกรณีนายภคพงศ์เสียชีวิต และครอบครัวนำร่างไปชันสูตรใหม่ แล้วพบว่าอวัยวะภายในหายจึงยังติดใจสาเหตุการเสียชีวิต ซึ่งกรณีอวัยวะภายในของผู้เสียชีวิตหายไปนั้น ได้รับคำชี้แจงจากแพทย์ว่าเป็นขั้นตอนทางการแพทย์ โดยเตรียมข้อมูลประกอบการชี้แจงกับ ผบ.ทสส. พร้อมยืนยันว่าวันที่นายภคพงศ์เสียชีวิต ตนในฐานะผู้บัญชาการโรงเรียนเตรียมทหาร ก็อยู่กับบิดามารดาของผู้เสียชีวิต ได้พูดคุยชี้แจงมาโดยตลอด รวมถึงมีการสอบสวนเรื่องนี้เสร็จเรียบร้อยแล้ว
กองบัญชาการกองทัพไทย
กองบัญชาการกองทัพไทย
ยืนยันผู้เสียชีวิตไม่ได้ถูกทำร้าย แต่ทางครอบครัวระบุว่า ยังไม่พร้อมจะรับฟัง และได้ให้ทางตำรวจนำศพของผู้เสียชีวิตไปชันสูตร เพราะเป็นการเสียชีวิตที่ผิดตามธรรมชาติ โดยได้รับความยินยอมจากทางครอบครัว แต่ไม่รู้ว่าทางครอบครัวได้นำศพไปตรวจพิสูจน์อีกครั้ง
แพทย์ชี้แจงเก็บสมอง-หัวใจตรวจชันสูตร
ด้าน พ.ท.นรุฏฐ์ ทองสอน นายแพทย์กองพยาธิ ศูนย์อำนวยการพระมงกุฎเกล้า ซึ่งผ่าชันสูตรการตาย ชี้แจงว่าได้รับร่าง นตท.ภคพงศ์ มาในวันที่ 18 ต.ค.ที่ผ่านมา เวลาประมาณ 01.00 น. และเริ่มชันสูตรในวันที่ 19 ต.ค.ที่ผ่านมา จากการตรวจชันสูตรไม่พบบาดแผลภายนอกร่างกาย จึงต้องผ่าเปิดภายใน พบว่ากระดูกซี่โครงซี่ที่ 4 ข้างขวาหัก
สิ่งที่พบผิดปกติ ยังไม่ตอบโจทย์ว่ารอยช้ำและซี่โครงหักจะทำให้เสียชีวิตได้ จึงต้องตรวจจากกล้องจุลทรรศน์ โดยทั่วไปการผ่าจะสุ่มตัวอย่างทุกอวัยวะไว้ประมาณขนาดหัวแม่มือหรือครึ่งชิ้นของอวัยวะเก็บไว้ตรวจพิสูจน์ แต่เคสของการตายผิดธรรมชาติไม่ทราบสาเหตุนั้น ส่วนใหญ่แพทย์จะดูที่สมอง หัวใจ เป็นหลัก แต่เนื่องจากทางกายภาพ สมองมันยังสด ก็คล้ายกับเต้าหู้ไข่ไก่ ถ้าทำไม่ดีจะเละ จึงต้องทำการแช่ฟอร์มาลีนสมองทั้งก้อนและหัวใจทั้งหมดเพื่อทำสไลด์ และเก็บไว้ตรวจชันสูตร
นอกจากนี้ยังตรวจผลทางพิษวิทยา เก็บตัวอย่างเลือด กระเพาะปัสสาวะ ซึ่งหดเล็กมากไม่มีปัสสาวะตกค้าง หลังจากผ่าแล้วได้เย็บคืนไว้ ทั้งนี้ยืนยันว่าสิ่งที่สถาบัน เก็บไว้คือ สมองทั้งก้อน หัวใจ กระเพาะอาหาร และอวัยวะบางส่วน เพื่อเก็บตัวอย่างไว้ตรวจทางห้องปฏิบัติการ ขณะนี้ได้สรุปรายงานเมื่อ 2 สัปดาห์ก่อน และสิ่งที่ชี้ถึงความโน้มเอียงว่ามีความผิดปกติ ซึ่งเป็นสาเหตุการเสียชีวิตน่าจะมาจาก "หัวใจล้มเหลวเฉียบพลัน"
กองบัญชาการกองทัพไทย
กองบัญชาการกองทัพไทย
ผบ.ทสส.ชี้อวัยวะไม่ถูกขโมย
ด้าน พล.อ.ธารไชยยันต์ ระบุว่า กรณีที่อ้างญาติอ้างว่าศพของนายภคพงศ์ ถูกควักอวัยวะภายในหายไป ไม่เป็นไปตามที่ทางญาติกล่าวอ้าง เนื่องจากเมื่อเกิดเหตุทางโรงเรียนเตรียมทหารได้ส่งศพไปชันสูตรที่โรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า และมีการตัดอวัยวะบางส่วนนำไปผ่าพิสูจน์ แต่เป็นเพียงชิ้นเล็กน้อยเท่านั้น
ผบ.ทสส.กล่าวว่า ทางโรงเรียนเตรียมทหารได้ร่วมจัดงานศพกับทางญาติ และช่วยเหลือทุกอย่าง โดยที่ผ่านมาได้ให้การช่วยเหลืออย่างเต็มที่ ทางโรงเรียนก็ได้ร่วมจัดงานพิธีบำเพ็ญกุศลศพและทำการฌาปนกิจเรียบร้อย และเป็นการฌาปนกิจโลงเปล่า ไม่มีศพ ซึ่งทางโรงเรียนได้ให้การช่วยเหลืออย่างเต็มที่ไม่ได้นิ่งนอนใจ กรณีที่มีผ้าพันแผลอยู่ในอวัยวะ น่าจะเกิดจากการตรวจพิสูจน์ก่อนหน้านี้ของทางโรงพยาบาล และยืนยันไม่ได้มีการขโมยอวัยวะแต่อย่างใด
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวานนี้ (20 พ.ย.) ครอบครัวนายภคพงศ์ แถลงข้อสงสัยสาเหตุการเสียชีวิต หลังจากการนำร่างไปชันสูตรใหม่ และพบว่าอวัยวะภายใน สมอง หัวใจ กระเพาะอาหาร กระเพาะปัสสาวะหายไป ส่วนปอดและตับหายไปอย่างละครึ่ง โดยไม่นำกลับมาพร้อมศพ นอกจากนี้ยังพบรอยช้ำอย่างหนักบนร่างกายหลายจุด และกระดูกซี่โครงซี่ที่ 4 หัก
อ่านข่าวเพิ่มเติม
พ่อแม่ขอคืนอวัยวะ "นักเรียนเตรียมทหาร" ตายปริศนา ขู่เอาผิดผู้เกี่ยวข้อง
เรียกร้องแจงปม "นักเรียนเตรียมทหาร" ตายปริศนา