ร้านจำหน่ายขนมหวานในองค์การตลาดเพื่อเกษตรกร (อตก.) บางร้านใช้น้ำตาลทรายวันละ 1 กระสอบ คิดเป็นเงิน 650 บาท เพื่อทำขนมหวานหลายชนิด ไม่ว่าจะเป็นมันเชื่อม กล้วยเชื่อม ทองหยิบ ทองหยอด ซึ่งของหวานประเภทนี้จะใช้น้ำตาลมากที่สุด
พนักงานกล่าวว่า น้ำตาลทรายเป็นต้นทุนหลักในการทำขนม หรือประมาณ 50 เปอร์เซ็นต์ ถ้าหากลอยตัวราคาน้ำตาล คงจะได้รับผลกระทบจากความไม่แน่นอนของราคา โดยร้านรับมือความผันผวนด้วยการจะซื้อน้ำตาลมากักตุนไว้ เพื่อให้รู้ต้นทุนและไม่อยากขึ้นราคาขนม เพราะอาจกระทบต่อยอดขาย พร้อมทั้งต้องการให้รัฐบาลควบคุมราคาน้ำตาล
ส่วนร้านขายขนมอีกร้านหนึ่งระบุว่า คงได้รับผลกระทบอย่างแน่นอน และยังไม่รู้ว่าใครจะเป็นผู้ประกาศราคา ทำให้ไม่สามารถคำนวนต้นทุนในอนาคตได้ โดยที่ร้านต้องใช้น้ำตาลมากถึงวันละ 5 กระสอบ ทำขนมขายให้กับผู้บริโภคทั่วไปและส่งโรงแรมอีก 138 แห่ง หากราคาปรับขึ้นอาจหันมาใช้สารให้ความหวานอื่น เช่น น้ำตาลฟรุ้ตโต้ส ที่มีราคาถูกกว่าร้อยละ 10-20 ด้านผู้บริโภคก็มีความกังวลว่า สุดท้ายแล้วผู้บริโภคจะเป็นผู้ที่ถูกผลักภาระมาให้
น.ส.สลิลลา สีหพันธุ์ รองประธานกรรมการฝ่ายกิจการบรรษัท เทสโก้ โลตัส ระบุว่า ขณะนี้จำหน่ายน้ำตาลทรายโดยกำหนดให้ซื้อไม่เกิน 6 กิโลกรัมต่อคน ในราคาควบคุมที่กิโลกรัม 23.50 บาท เพื่อป้องกันการกักตุน โดยมาตรการนี้ดำเนินการมาอย่างต่อเนื่อง ส่วนกรณีที่รัฐอาจจะมีการลอยตัวน้ำตาลทรายในวันที่ 1 ธ.ค.2560 ยังไม่พบพฤติกรรมการกักตุนน้ำตาล แต่เมื่อมีการลอยตัว หน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะต้องดูแลสต็อกให้เพียงพอต่อการบริโภค