วันนี้ (22 พ.ย.2560) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บรรยากาศการค้าขายที่หาดป่าตอง จ.ภูเก็ต ยังคงคึกคัก แม้ว่าก่อนหน้านี้ ผู้ประกอบการจะออกมาร้องเรียนว่าถูกเรียกรับเงินสินบนจากเจ้าหน้าที่ นำมาซึ่งคำสั่งโยกย้ายตำรวจในพื้นที่ 10 นาย พร้อมตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงในการเรียกรับส่วย แต่วันนี้กลับพบว่าผู้ประกอบการหลายคนไม่กล้าให้ข้อมูลกับสื่อมวลชน เพราะเกรงว่าจะได้รับผลกระทบในการดำเนินธุรกิจ ซึ่งไม่ต่างจากสถานที่ท่องเที่ยวหลายแห่งใน อ.เกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี ที่ผู้ประกอบการหลายคนปฏิเสธที่จะให้ข้อมูลในการถูกเรียกเก็บส่วย
ด้าน พล.ต.ท.รณศิลป์ ภู่สาระ ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 9 สั่งตำรวจภูธร จ.สงขลา ตรวจสอบการเรียกเก็บส่วยจากสถานประกอบการใน อ.สะเดา จ.สงขลา โดยให้รายงานผลทราบภายใน 7 วัน หากพบตำรวจท้องที่เกี่ยวข้องเรียกเก็บส่วยจริง จะดำเนินการขั้นเด็ดขาด ขณะที่ผู้กำกับการตำรวจภูธรสะเดา ระบุว่า ข้อมูลการจ่ายส่วย อ.สะเดา ที่ไทยพีบีเอสนำมาเปิดเผยเมื่อวานนี้ ไม่เป็นความจริงและในพื้นที่ไม่มีบ่อนพนัน
ทั้งนี้ จากการตรวจสอบของไทยพีบีเอส ผู้ประกอบการบางแห่งให้ข้อมูลว่ามีการจ่ายส่วยบ่อนพนันบัคคาล่า บ้านไทยจังโหลน, ส่วยน้ำมันเถื่อน, ส่วยร้านคาราโอเกะ, ส่วยสถานบันเทิงเปิดเกินเวลา และส่วยสินค้าหนีภาษีหลายประเภท โดยผู้ประกอบการจะถูกเจ้าหน้าที่เรียกเก็บส่วย ซึ่งเงินรายได้ร้อยละ 70 จะถูกส่งไปให้ส่วนกลาง และที่เหลือร้อยละ 30 เป็นรายได้ของเจ้าหน้าที่ระดับท้องถิ่น
ขณะที่ พ.ต.อ.เสกสันต์ แก้วสว่าง ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรสะเดา ปฏิเสธข้อมูลที่ถูกนำมาเปิดเผยว่า ไม่เป็นความจริง ในพื้นที่ก็ไม่มีบ่อนการพนัน และยินดีให้ตรวจสอบ แต่ปฏิเสธที่จะให้ข้อมูลเพิ่ม