วานนี้ (22 พ.ย.2560) นายวิสุทธิ์ ศรีสุพรรณ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า กระทรวงการคลังอยู่ระหว่างพิจารณาข้อเสนอของโรงงานยาสูบที่จะให้แก้กฎกระทรวงกำหนดอัตราภาษีสรรพสามิตบุหรี่ ตาม พ.ร.บ.สรรพสามิต 2560 ว่า สามารถทำได้หรือไม่หลังจากที่โรงงานยาสูบได้รับผลกระทบทำให้ยอดจำหน่ายบุหรี่ลดลงมาก
แหล่งข่าวจากกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า พ.ร.บ.สรรพสามิตใหม่ ให้เก็บภาษีจากฐานราคาขายปลีกแนะนำ จากเดิมเก็บจากราคาหน้าโรงงาน หรือราคาสำแดงนำเข้า ส่วนประกาศกระทรวงการคลังกำหนดอัตราการ เก็บภาษีบุหรี่ กำหนดให้เก็บภาษีตามปริมาณบุหรี่มวนละ 1 บาท 20 สตางค์ และเก็บภาษีตามราคาในส่วนราคาที่ไม่เกิน 60 บาท/ซอง ให้เก็บภาษีอีกร้อยละ 20 แต่หากเกินซองละ 60 บาท ให้เก็บภาษีร้อยละ 40 ซึ่งการแก้ประกาศต้องระวังไม่ให้เป็นการช่วยโรงงานยาสูบเป็นการเฉพาะรายเดียว เพราะอาจจะมีปัญหาเรื่องการกีดกันทางการค้าและการแข่งขันที่ไม่เป็นธรรมได้ รวมทั้งไม่ทำให้โครงสร้างการเก็บภาษีบุหรี่มีปัญหาเพิ่มขึ้น
ด้านสหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจยาสูบได้ประกาศเชิญพนักงานร่วมลงรายชื่อเพื่อยื่นเรื่องฟ้องศาลปกครอง หลังประเมินว่าการประกาศใช้ พ.ร.บ.ภาษีสรรพสามิตใหม่กระทบโรงงานยาสูบยอดจำหน่ายบุหรี่ลดลงจากปีงบ 2560 ถึง ร้อยละ 41 และคาดว่าปี 2561 โรงงานยาสูบจะประสบภาวะขาดทุนมากถึง 1,575 ล้านบาท จากภาระภาษีและเงินบำรุงต่างๆ ที่รวมเป็นเงินไม่น้อยกว่า 43,300 ล้านบาท ทั้งนี้ ได้เริ่มรับลงรายชื่อตั้งแต่ 20-24 พ.ย.2560 นี้แล้ว