วานนี้ (29 พ.ย.2560) นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงษ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม เรียกร้องให้ พ.ต.อ.ดุษฎี อารยวุฒิ รองปลัดกระทรวงยุติธรรม แสดงความรับผิดชอบ กรณีศาลฎีกายกคำร้องขอรื้อฟื้นคดีนางจอมทรัพย์ แสนเมืองโคตร เพราะรองปลัดฯ รู้ตั้งแต่แรกว่านายสับ วาปี ถูกว่าจ้างให้มารับผิดแทน แต่ยังยอมให้มีการเบิกเงินค่าใช้จ่ายเพื่อดูแลขบวนการนี้
นอกจากนี้ นายอัจริยะ ยังได้นำเอกสารและข้อมูลของนางจอมทรัพย์ เจ้าหน้าที่กระทรวงยุติธรรม และทีมทนายความ รวม 18 คน ที่ช่วยเหลือการรื้อฟื้นคดีมอบให้พนักงานสวนสอบ โดยเฉพาะทีมทนาย ความ 3 คน ซึ่งนายอัจฉริยะ อ้างว่าอยู่เบื้องหลังขบวนการว่าจ้างนายสับ วาปี มารับผิดแทน
ขณะที่วันนี้ (30 พ.ย.) เจ้าหน้าที่กระทรวงยุติธรรม จำนวน 14 คน ซึ่งมีรายชื่อช่วยเหลือในการรื้อฟื้นคดีนางจอมทรัพย์ จะเดินทางมาให้ปากคำที่กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 4 จังหวัดขอนแก่น ซึ่งพนักงานสอบสวนจะสอบปากคำถึงการทำหน้าที่ การรับคำร้อง และการช่วยเหลือในช่วงที่ผ่านมา ซึ่งผู้ที่มาให้ข้อมูลจะอยู่ในฐานะผู้ปฏิบัติงาน ไม่ได้เป็นผู้ถูกกล่าวหา ซึ่งมีรายงานว่าในรายชื่อทั้ง 14 รายชื่อ มีพ.ต.อ.ดุษฎี รวมอยู่ด้วย แต่ไม่ชัดเจนว่าจะเดินทางไปให้ปากคำหรือไม่
นอกจากนี้ยังมีชื่อของนายณัชพล สุพัฒนะ หรือ มาร์คพิทบูล ประธานชมรมมิตรภาพ เจ้าของเพจ "มาร์ค พิทบูล" ที่ให้การช่วยเหลือนางจอมทรัพย์ด้วยการมอบเงิน 1 ล้านบาทด้วย
ก่อนหน้านี้ พล.ต.อ.วิระชัย ทรงเมตตา รักษาราชการแทนรองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ และโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ แถลงความคืบหน้าในการดำเนินการจับกุมขบวนการสร้างพยานเท็จ คดีนางจอมทรัพย์ แสนเมืองโคตร ว่าสอบสวนพยานไปแล้ว 33 ปาก และยังสอบสวนพยานเพิ่มต่อไป
ในคดีนี้สามารถจับกุมผู้ต้องหาไปแล้วทั้งหมด 5 คน ประกอบไปด้วยนางจอมทรัพย์ นายสุริยา นวลเจริญ หรือครูอ๋อง ผู้ประสานงานว่าจ้างนายเสริฐและนายสับมาเป็นผู้รับผิดชอบแทน นายสับ วาปี นางจันทร์ วาปี ภรรยานายสับ และนางทัศนีย์ หาญพยัคฆ์ ผู้เป็นประจักษ์พยานแล้วกลับคำให้การ
นอกจากนี้ยังเรียกนางทัศนีย์ มาแจ้งข้อกล่าวหาเพิ่ม หลังจากแจ้งข้อหาแจ้งความอันเป็นเท็จต่อเจ้าพนักงาน โดยตำรวจได้ออกหมายจับผู้ต้องหาเพิ่มอีก 1 คน เกี่ยวข้องกับการสร้างพยานเท็จ ขณะที่นายนิรันดร์ แสนเมืองโคตร สามีของนางจอมทรัพย์ ขอเลื่อนเข้าให้ปากคำแบบไม่มีกำหนด