วานนี้ (17 ธ.ค.2560) สำนักข่าวต่างประเทศ รายงานว่ากลุ่มผู้ชุมนุมชาวปาเลสไตน์ประมาณ 30 คน รวมตัวบริเวณโบสถ์พระคริสตสมภพ ซึ่งเชื่อว่า เป็นสถานที่ประสูติของพระเยซูในเมืองเบธเลเฮม พร้อมทั้งจุดไฟเผาป้ายที่มีรูปภาพของนายไมค์ เพนซ์ รองประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา
การชุมนุมครั้งนี้มีจุดหมาย เพื่อประท้วงต่อต้านการรับรองนครเยรูซาเล็ม เป็นเมืองหลวงของอิสราเอล ก่อนที่รองประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา จะเดินทางเยือนอิสราเอล และภูมิภาคตะวันออกกลางอย่างเป็นทางการวันที่ 20 ธ.ค.นี้
ขณะที่ชาวมุสลิมหลายพันคนในนครการาจี ของปากีสถาน เดินขบวนประท้วงนายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐ ซึ่งถือเป็นการประท้วงครั้งใหญ่ที่สุด นับตั้งแต่ผู้นำสหรัฐฯ รับรองนครเยรูซาเล็ม เมื่อวันที่ 6 ธ.ค.ที่ผ่านมา
ส่วนชาวมุสลิมประมาณ 80,000 คนในกรุงจาการ์ตาของอินโดนีเซีย รวมตัวกันด้านนอกสถานเอก อัครราชทูตสหรัฐฯประจำกรุงจาการ์ตาและบริเวณโดยรอบอนุสาวรีย์แห่งชาติ เพื่อประท้วงต่อต้านการรับรองนครเยรูซาเล็ม เป็นเมืองหลวงของอิสราเอล
ด้านนักการทูตประจำองค์การสหประชาชาติ กล่าวว่า คณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ หรือ UNSC เตรียมคัดค้านการรับรองนครเยรูซาเล็ม เป็นเมืองหลวงของอิสราเอล เนื่องจากการตัดสินใจครั้งนี้ ขัดฉันทามติระหว่างประเทศ ขณะที่หลายฝ่าย คาดการณ์ว่า สหรัฐอเมริกา น่าจะใช้สิทธิ์ยับยั้งการลงมติคัดค้านในวันนี้
ร่างมติคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ ฉบับดังกล่าว เรียกร้องให้ทุกประเทศหลีกเลี่ยงการจัดตั้งสถานเอกอัครราชทูต ที่นครเยรูซาเล็ม นอกจากนี้ยังเรียกร้องให้ชาติสมาชิกองค์การสหประชาชาติ ไม่ยอมรับการกระทำใดๆ ที่ขัดต่อมติขององค์การสหประชาชาติอีกด้วย