ค้นหา
ทีวีออนไลน์
เว็บไซต์ในเครือ
เว็บไซต์บริการ

เปิดสายสัมพันธ์ “ชวนหลิง จาง - วู บิงลิน” ผ่าน ไชน่า เรลเวย์ No.10

อาชญากรรม
21 เม.ย. 68
18:37
134
Logo Thai PBS
เปิดสายสัมพันธ์ “ชวนหลิง จาง - วู บิงลิน” ผ่าน ไชน่า เรลเวย์ No.10

ชวนหลิง จาง (Mr.Chuanling Zhang) สัญชาติจีน กรรมการผู้ถือหุ้น 49% ของบริษัท ไชน่า เรลเวย์ No.10 (ประเทศไทย) จำกัด ผู้ก่อสร้างอาคารสตง. ยอมรับว่า เป็นผู้แทนรัฐวิสาหกิจของประเทศจีนที่เข้ามาลงทุนในไทย ในนามรัฐบาลจีน ไม่ได้ให้ใครมาถือหุ้นแทน และเป็นเพียงฝ่ายบริหารที่ถูกส่งมาบริหารบริษัทในไทย วันนี้ (21 เม.ย.2568) กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) นำตัวไปขออำนาจศาลอาญาฝากครั้งที่ 1 กำหนด 12 วัน

ชวนหลิง จาง ถูกแจ้งข้อหาในฐานะส่วนตัวและฐานผู้แทนนิติบุคคลตามหมายจับศาลอาญาที่ 2389/2568 คดีพิเศษที่ 32/2568 ในข้อหาเป็นคนต่างด้าวที่ประกอบธุรกิจจึงต้องห้ามมิให้คนต่างด้าวประกอบกิจการ หรือ ต้องได้รับอนุญาตก่อน และเป็นนิติบุคคลซึ่งรู้เห็นเป็นใจกับการกระทำผิดนั้น ตามพ.ร.บ. การประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว พ.ศ.2542

หลังพนักงานสอบสวน พบหลักฐานทางการเงินกว่า 2,000 ล้านบาท ที่มีการกู้ยืมกรรมการบริษัทที่เป็นคนจีน เป็นเหตุให้บริษัทไชน่า เรลเวย์ ฯ ทำสัญญากับสำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน(สตง.) ในรูปกิจการร่วมค้า เบื้องต้นดีเอสไอชี้ว่า คดีนื้ถือเป็นความผิดเฉพาะตัว มีหลักฐานซึ่งในชั้นพนักงานสอบสวนเห็นว่า มีมูลเหตุ ซึ่งผู้ถูกกล่าวหามีสิทธิหาพยานหลักฐานมาหักล้างได้ หากไม่พบการกระทำความผิดศาลก็สั่งไม่ฟ้อง แต่ถ้าพบว่ามีส่วนเกี่ยวข้องหรือมีมูลก็ต้องสั่งฟ้อง เป็นไปตามขั้นตอนตามกฎหมาย

“เขายอมรับว่า เป็นตัวแทนรัฐวิสาหกิจจีนจริง และปฏิเสธไม่มีส่วนเกี่ยว ข้อง กับคนไทยยอมรับว่ารู้จัก ส่วนเงินลงทุน 2,000 ล้านบาท ไม่ทราบว่ามาจากไหน ...สุดท้ายก็ต้องมีการขยายผลเพื่อสอบสวนต่อ เพราะผู้ที่จะมาร่วมทุนด้วยกัน จะไม่ทราบได้อย่างไรว่า เงินทุนมาจากไหน ซึ่งต้องมาดูว่า การสอบสวนของเราจะไปอย่างไรต่อ” แหล่งข่าวจากชุดพนักงานสอบสวน ตั้งข้อสังเกต

บ่ายวันนี้ ( 21 เม.ย.2568 ) หลัง ชวนหลิง จาง ถูกนำตัวไปฝากขัง กรรมการ 3 รายที่เป็นนอมินีคนไทย คือ มานัส ศรีอนันท์ , ประจวบ ศิริเขตร และโสภณ มีชัย ก็ได้เข้ามอบตัวกับดีเอสไอ จากการสืบสวนพบว่า“มานัส” ไม่ได้อยู่ในสถานะเพียงพอที่จะดำเนินธุรกิจขนาดใหญ่ และไม่มีวิชาชีพเชี่ยวชาญเกี่ยวข้องในด้านงานวิศวกรรมก่อสร้าง นอกจากนี้ยังพบว่ามีการไปถือหุ้นนิติบุคคลอีก 10 บริษัท เช่นเดียวกับประจวบและโสภณ

หากพลิกความเชื่อมโยง ก่อนจะเกิดโศกนาฎกรรมตึกสตง.ถล่มจากเหตุแผ่นดินไหว ชื่อของบริษัท ไชน่า เรลเวย์นัมเบอร์ 10 เคยตกเป็นข่าว จากกรณีการทำอัตวินิบาตกรรมด้วยการยิงตัวตายของ พล.อ.ภัสสร อิศรางกูร ณ อยุธยา ที่ปรึกษาของ บริษัท ไชน่า เรลเวย์นัมเบอร์ 10 เมื่อวันที่ 4 มี.ค.2566 โดยจุดเกิดเหตุคือ เลขที่ 493 ซอยพุทธบูชา 44 แยกย่อยซอยที่ 11 ถนนพุทธบูชา แขวงบางมด เขตทุ่งครุ กรุงเทพมหานคร

เลขที่ตั้งดังกล่าว นอกจากจะเป็นที่ตั้งของบริษัท ไชน่า เรลเวย์นัมเบอร์ 10 ที่มีชื่อของ ชวนหลิง จาง เป็นกรรมการบริษัทเมื่อวันที่10 ส.ค. 2561 ด้วยทุนจดทะเบียน 100,000,000 บาท แล้วยังมีอีก 8 บริษัท จดทะเบียนโดยใช้ที่อยู่เดียวกัน รวมทั้งมีบริษัทที่มีชื่อชาวจีนคนอื่น ๆ เข้ามาเกี่ยวข้อง หนึ่งในรายชื่อคนจีนที่พบ คือ “บิง ลิน วู” Mr.Binglin Wu ที่มีชื่อเป็นกรรมการบริษัท 1 แห่ง และ เป็นผู้ถือหุ้นใน 4 บริษัท ที่จดทะเบียนโดยใช้ที่อยู่นี้

1 เม.ย.2568 หลังตึกสตง.ถล่มเมื่อวันที่ 28 มี.ค.2568 มีรายงานผลการชัน สูตรจากตำรวจในพื้นที่เกิดเหตุสน.สำราญราษฎร์และตำรวจนครบาลว่า ว่า ผู้เสียชีวิตป่วยเป็นโรคซึมเศร้า และญาติระบุว่า ในช่วงก่อนเสียชีวิต ไม่มีประเด็นหรือสาเหตุใด ๆ เกี่ยว ข้องกับการขัดแย้งเรื่องธุรกิจ แม้จะมีหลายฝ่ายตั้งข้อสงสัยว่า เหตุใด พล.อ.ภัสสร จึงเลือกสถานที่ดังกล่าวปลิดชีพตัวเอง

พลิกกลับมาที่ข้อมูลของกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ระบุว่า ในช่วงปี 2552-2559 กลุ่มทุนเครือข่าย ChinaRailway No.10 มีจำนวน 6 แห่ง รวมทุนจดทะเบียน 114.8 ล้านบาท ถือว่าเป็นยุคแรก และพบชื่อบริษัทที่น่าสนใจ คือ บจก.สันติภาพ อิมปอร์ต-เอ็กปอร์ต , บจก.สันติภาพ การขนส่ง ไทย-จีน (ร้าง) , บจก.ยูไนเต็ด สตาร์ กรุ๊ป , บจก.วิล มาร์ท (ประเทศไทย) , บจก.สันติภาพ พร็อพเพอร์ตี้ และ บจก.ไฮห่าน

มีกลุ่มบุคคลเกี่ยวข้องเป็นกรรมการ และผู้ถือหุ้นบริษัทกลุ่มนี้ นอกจาก โสภณ ,ประจวบ และ มานัส แล้วมีชื่อของ “บิง ลิน วู” Mr.Binglin Wu สัญชาติจีน , อิทธิพัทธ์ วรธำรงเกียรติ , Mr.Zhan Ronghan สัญชาติจีน Mr.Chang Cheakun สัญชาติจีน และ Guangdong Dcenti Auto-Parts Stock Limited Company สัญชาติจีน อีกด้วย

ต่อมาช่วงปี 2560 กลุ่มทุนเครือข่าย ChinaRailwayNo.10 ได้จดทะเบียนเพิ่มอีก 4 แห่ง รวมทุนจดทะเบียน 39.0 ล้านบาท คือ 1. บจก.บี เอ็กซ์เพรส (ประเทศไทย) เลิก(เสร็จการชำระบัญชี) 2. บจก.โชคนิมิต บิสซิเนส แอนด์ เซอร์วิส 3. บจก.เอสทีพี อิมปอร์ต-เอ็กปอร์ต (ประเทศไทย) และ 4. บจก.เอวาน่า อินเตอร์เนชั่นแนล

กรรมการ ถือหุ้นบริษัท นอกจาก ประจวบ และมานัส ยังมีชื่อ Mr.Yan Tao สัญชาติจีน และปิยะเดช วงจันทร์ศิลป์ รวมอยู่ด้วย

ต่อมาในช่วงปี 2564-2567 กลุ่มเครือข่าย ChinaRailwayNo.10 ได้เพิ่มจำนวนบริษัทอีก 5 แห่ง รวมทุนจดทะเบียน 7 ล้านบาท ประกอบด้วย บจก.เอที แคปปิตอล โซลูชั่น (เลิกเสร็จการชำระบัญชี) บจก.สแตร์ ลาเบล อินเตอร์ กรุ๊ป (ประเทศไทย) บจก.สยาม ไบโอเมดิคอล ไซเอนซ์ บจก.ไซเบอร์ เทเลคอม และ บจก.โมเยนเน่ (ประเทศไทย) ซึ่ง โสภณ ,ประจวบและมานัส ยังคงเป็นกรรมการและผู้ถือหุ้นบริษัทกลุ่มนี้เช่นเดิม

สำหรับบริษัท สันติภาพ อิมปอร์ต-เอ็กปอร์ต จำกัด ซึ่งเป็นกลุ่มทุนเครือข่าย ChinaRailwayNo.10 ในยุคแรก ๆ มี “ชาญชัย รุ่งโรจน์ธนเจริญ” ประธานบริษัท สันติภาพ อิมปอร์ต- เอ็กปอร์ต จำกัด

ตามประวัติ “ชาญชัย” มีชื่อภาษาจีน Binglin Wu หรือ บิงลิน วู เป็นนักธุรกิจเชื้อสายจีนที่ทำงานอยู่ในประเทศไทย ภูมิลำเนาเดิมเป็นชาวแต้จิ๋ว (มณฑลกวางตุ้ง ประเทศจีน)

ข้อมูลระบุยังระบุด้วยว่า ปัจจุบัน บิงลิน วู ไม่ได้มีตำแหน่งเจ้าหน้าที่รัฐอย่างเป็นทางการในจีน แต่มีบทบาทสำคัญกับองค์กรภาครัฐและนโยบายของพรรคคอม มิวนิสต์จีน และยังเคยได้รับการแต่งตั้งให้เป็นกรรมการสหพันธ์ชาวจีนโพ้นทะเลแห่งชาติของจีน ที่ดูแลชาวจีนโพ้นทะเลที่มาอาศัยและตั้งภูมิลำเนาในประเทศอื่น ๆ รวมทั้งไทย

ภาพจากเพจรู้ทันจีน

ภาพจากเพจรู้ทันจีน

ภาพจากเพจรู้ทันจีน

ในปี 2024 บิงลิน วู ได้เข้าร่วมการประชุมสมัชชา 100 ประเทศของผู้นำชาวจีนโพ้นทะเล ณ นครหลินชาง มณฑลยูนนาน มีการลงนามข้อตกลงความร่วมมือ ด้านโลจิสติกส์ ทางบกระหว่างจีน-เมียนมา-บังกลาเทศ เพื่อพัฒนาเส้นทางขนส่งเชื่อมจีนกับภูมิภาคเอเชีย และเคยได้รับเลือกเป็นนายก สมาคมเครือญาติและเครือข่ายชาวจีนแต้จิ๋วสายเมืองเฉาอันในไทย

นอกจากนี้ ยังเป็นรองประธานสมาคมแต้จิ๋วแห่งประไทย และกรรมการหอการ ค้าไทย-จีน ซึ่งเป็นองค์กรหลักที่เชื่อมโยงนักธุรกิจไทย-จีนเข้าด้วยกัน

ทั้งหมดเป็นบางส่วนของเศษเสี้ยวที่สะท้อนให้เห็นสายสัมพันธ์ของกลุ่มทุนไทย-จีน ผ่านใต้ซากตึกสตง.ผ่านบริษัท ChinaRailwayNo.10 ท่ามกลางซากปรักหักพัง และผู้คนที่บาดเจ็บ สูญหายและเสียชีวิตไปแล้ว และบางส่วนยังไม่ได้กลับคืนสู่ครอบครัว

หมายเหตุ: คดีพิเศษที่ 32/2568 ของดีเอสไอ สำหรับ บุคคลที่ปรากฏรายชื่อทั้งหมดยังเป็นเพียงผู้ถูกกล่าวหา ถือว่ายังเป็นผู้บริสุทธิ์ และศาลยังไม่ได้มีคำพิพากษา ส่วนข้อมูลอื่น ๆที่เกี่ยวข้องขณะนี้ดีเอสไอยังอยู่ระหว่างการสืบสวนและขยายผล และยังไม่ได้มีการกล่าวโทษผู้ใดเพิ่มเติม

อ่านข่าว:

ขุดเบื้องลึก "ไชน่า เรลเวย์ นัมเบอร์ 10 (ไทย)" ทุนจีนใหม่แผ่นดินใหญ่

รื้อ “ซิน เคอ หยวน” ทุนจีน “ผลิตเหล็กเส้นรายใหญ่” ในซากตึกสตง.

ขุมทรัพย์ “ไชน่า เรลเวย์” แกะรอยผู้ถือหุ้นจีน-ไทย สร้างอาคารสตง.

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง