กรณีการเสียชีวิตของ "คิม จงฮยอน" นักร้องคนสำคัญของวง SHINee บอยแบนด์ชื่อดังจากเกาหลีใต้ ที่ฆ่าตัวตายโดยมีสาเหตุมาจากโรคซึมเศร้า ทำให้แฟนคลับจำนวนมาก รวมถึงแฟนคลับในประเทศไทยที่ทราบข่าว เกิดอาการเศร้าเสียใจ จึงมีความกังวลว่าจะเกิดการฆ่าตัวตายเลียนแบบคนดังที่ชื่นชอบ
นพ.บุญเรือง ไตรเรืองวรวัฒน์ อธิบดีกรมสุขภาพจิต กล่าวถึงพฤติกรรมการฆ่าตัวตายเลียนแบบคนดัง หรือ Copycat Suicide ในเมืองไทย ว่า จะไม่เกิดขึ้นกับคนที่ไม่มีความคิดฆ่าตัวตายอยู่ก่อน แต่สำหรับคนที่คิดฆ่าตัวตายอยู่แล้วอาจทำให้เห็นช่องทาง หรือวิธีการที่จะฆ่าตัวตายมากขึ้น แม้กระแสการฆ่าตัวตายเลียนแบบบุคคลที่มีชื่อเสียงจะยังมีไม่มากนักในเมืองไทย แต่ก็ไม่ควรชะล่าใจ โดยทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องต้องช่วยกันเฝ้าระวัง ขณะที่สื่อมวลชนควรแนะแนวทางป้องกัน ดูแลและช่วยเหลือผู้ที่เสี่ยงต่อการฆ่าตัวตาย มากกว่าการให้รายละเอียดการฆ่าตัวตาย
นอกจากนี้ยังแนะผู้ปกครองให้เฝ้าระวังบุตรหลานอย่างใกล้ชิด หากมีพฤติกรรมเปลี่ยนแปลง เช่น ร้องไห้บ่อย เก็บตัว ไม่พูด เหม่อลอย บางครั้งจะพูดถึงเรื่องฆ่าตัวตาย บ่นไม่อยากมีชีวิตหรือชีวิตไม่มีคุณค่า เป็นต้น สัญญาณเตือนเหล่านี้ ผู้ปกครองต้องหมั่นสังเกตและให้ความสนใจเป็นพิเศษ ส่วนแฟนคลับของคนดังที่ฆ่าตัวตาย ขอให้ชื่นชมในความสามารถของบุคคลนั้นและขอให้มองสิ่งที่เกิดขึ้นเป็นอุทาหรณ์หรือบทเรียน ทั้งนี้การฆ่าตัวตายไม่ใช่ทางออกของปัญหา
อธิบดีกรมสุขภาพจิต กล่าวอีกว่า การฆ่าตัวตายเป็นสิ่งที่ป้องกันได้ ส่วนภาวะซึมเศร้าก็สามารถรักษาให้หายได้เช่นกัน โดยหากเกิดภาวะซึมเศร้า คิดสั้น ทำใจไม่ได้ ให้พูดคุยกับคนใกล้ชิด หรือปรึกษาจิตแพทย์ ซึ่งการปรึกษาจิตแพทย์ไม่จำเป็นว่าต้องป่วย แต่สามารถปรึกษาเพื่อนำมาใช้เป็นแนวทางในการดำเนินชีวิตได้
จากข้อมูลพบว่า ทั่วโลกมีคนฆ่าตัวตายจำนวนกว่า 800,000 คนต่อปี คาดว่าจะเพิ่มเป็น 1.5 ล้านคนในปี 2563 และมีคนพยายามฆ่าตัวตาย สูงกว่าคนที่ฆ่าตัวตายสำเร็จถึง 20 เท่าตัว โดยเกิดจากหลายสาเหตุประกอบกัน ขณะที่ นพ.ณัฐกร จำปาทอง ผู้อำนวยการโรงพยาบาลจิตเวชขอนแก่นราชนครินทร์ เปิดเผยว่า อัตราการฆ่าตัวตายของคนไทยปี 2559 อยู่ที่ 6.35 ต่อประชากรแสนคน ลดลงจากปี 2558 ที่มีอัตรา 6.47 ต่อประชากรแสนคน โดยช่วงอายุ 35-39 ปีมีอัตราการฆ่าตัวตายสูงสุด