ที่ประชุม สนช.ใช้เวลาถึง 3 วัน พิจารณาร่าง พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วย ป.ป.ช.โดยเนื้อหาในประเด็นมาตรา 37/1 เกี่ยวกับอำนาจของคณะกรรมการ ป.ป.ช.ในการดักฟังข้อมูลข่าวสารถูกตัดออกไป แต่มาตรา 178 เกี่ยวกับการทำหน้าที่ของ ป.ป.ช.ชุดปัจจุบัน จนครบวาระ 9 ปี ยังทำให้เกิดข้อสงสัยจากสังคมกรณีความใกล้ชิดของคณะกรรมการ ป.ป.ช.กับผู้มีอำนาจในรัฐบาล
นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย เห็นว่า เป็นการเลือกปฏิบัติเมื่อเปรียบเทียบกับองค์กรอิสระอื่นๆ และทำลายโครงสร้างหลักของกฎหมาย รวมทั้งเอื้อต่อการทำหน้าที่ของ พล.ต.อ.วัชรพล ประสารราชกิจ ประธาน ป.ป.ช. ซึ่งถูกสังคมวิจารณ์ถึงความใกล้ชิดกับ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ที่มีประเด็นการตรวจสอบแหวนเพชรและนาฬิกาหรู
ขณะที่นายมานะ นิมิตรมงคล เลขาธิการองค์กรต่อต้านคอร์รัปชัน เชื่อว่า ประเด็นนี้่อาจกระทบถึงความเชื่อมั่นต่อการทำหน้าที่ของ ป.ป.ช.และถูกตั้งคำถามถึงหลักคุณธรรมจริยธรรมในระยะยาว
ส่วนนายมีชัย ฤชุพันธ์ ประธานกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ ยอมรับว่า การที่กรรมาธิการเสียงข้างน้อยยังติดใจและห่วงกังวลเนื้อหามาตรา 178 ที่อาจขัดรัฐธรรมนูญ นับเป็นจุดอ่อนที่ต้องระวัง และหากไม่ได้ข้อยุติก็อาจต้องยื่นให้ศาลรัฐธรรมนูญตีความ แต่ทั้งนี้ต้องติดตามประเด็นนี้อีกครั้ง หลังการลงมติในวันจันทร์ที่ 25 ธ.ค.นี้