ค้นหา
ทีวีออนไลน์
เว็บไซต์ในเครือ
เว็บไซต์บริการ

10 ปีบนเส้นทางนักร้อง (เรียน) “ศรีสุวรรณ จรรยา” ขอทำหน้าที่จนหมดแรง-ปัดปูทางการเมือง

การเมือง
4 ม.ค. 61
10:41
12,639
Logo Thai PBS
10 ปีบนเส้นทางนักร้อง (เรียน) “ศรีสุวรรณ จรรยา” ขอทำหน้าที่จนหมดแรง-ปัดปูทางการเมือง
ทำความรู้จัก “ศรีสุวรรณ จรรยา” เลขาธิการพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย และนายกสมาคมต่อต้านสภาวะโลกร้อน เจ้าของนิยาม "นักร้องเรียน"เบอร์หนึ่งของไทย กับข้อร้องเรียนผ่านมือ มากกว่า 3,000 เรื่อง

ตลอด 10 ปีที่ผ่านมา หลายคนคงคุ้นชื่อ “ศรีสุวรรณ จรรยา” เลขาธิการพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย และนายกสมาคมต่อต้านสภาวะโลกร้อน ที่มักปรากฎบนหน้าสื่อ จากประเด็นการร้องเรียนภาครัฐ และปัญหาความเดือดร้อนของประชาชน โดยมีคดีหรือข้อร้องเรียนผ่านมือของเขามากว่า 3,000 เรื่อง ขึ้นแท่น "นักร้องเรียน" เบอร์หนึ่งของไทย ล่าสุดกับการยื่นเรื่องต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เพื่อตรวจสอบ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย พล.อ.ฉัตรชัย สาริกัลยะ รองนายกฯ กรณีซื้อสุนัขพันธุ์บางแก้ว 3 ตัว อาจเข้าข่ายให้-รับของขวัญราคาเกิน 3,000 บาท

จุดเริ่มต้นของ “ศรีสุวรรณ จรรยา” นักร้อง (เรียน) เบอร์หนึ่งของไทย

ผมเข้าไปเกี่ยวข้องกับความทุกข์ร้อนของชาวบ้านและประโยชน์สาธารณะมาโดยตลอด เริ่มตั้งแต่สมัยเรียนระดับปริญญาตรี ที่มหาวิทยาแม่โจ้ ผมได้เป็นนายกองค์การนักศึกษา ตอนนั้นพบปัญหาในพื้นที่บริเวณรอบมหาวิทยาลัยค่อนข้างมาก โดยเฉพาะเรื่องความปลอดภัยของนักศึกษาและชาวบ้าน ที่ถูกรถบรรทุกชนและเสียชีวิตปีละหลายศพ โดยมีการเจรจากับหน่วยงานท้องถิ่นให้เข้ามาดูแล แต่ก็ไม่สามารถแก้ปัญหาได้ นำไปสู่การประท้วงปิดถนนสายเชียงใหม่-พร้าว เป็นเวลา 3 วัน จนกระทั่งประสบความสำเร็จและหน่วยงานรัฐเข้ามาดูแลแก้ไขปัญหาตามข้อเรียกร้อง หลังเรียนจบระดับปริญญาตรีก็เกิดความผูกพันกับการทำประโยชน์เพื่อสาธารณะ และเลือกทำงานในองค์กรพัฒนาเอกชน (เอ็นจีโอ) จากนั้นเรียนต่อระดับปริญญาตรีอีก 3 สาขาวิชา และระดับปริญญาเอก เพื่อเพิ่มความรู้ให้สามารถต่อสู่ หรือต่อรองกับหน่วยงานต่างๆ ได้ ขณะนี้มั่นใจว่ามีความรู้ความสามารถที่หลากหลายในการช่วยชาวบ้าน หรือผู้ที่เดือดร้อน หรือไม่ได้รับความเป็นธรรม

 

 

นอกจากนี้ ผมยังเข้าไปทำงานสภาทนายความ เรื่องเกี่ยวกับกฎหมายและรณรงค์เรื่องของสิ่งแวดล้อมมาโดยตลอด ผมจึงคิดว่าสายงานนี้ตอบโจทย์ของตัวเองและได้ช่วยเหลือชาวบ้านที่เดือดร้อนไร้ที่พึ่ง โดยจะเข้าไปเกี่ยวข้องกับการเรียกร้องตรวจสอบภาครัฐและนักการเมือง ตลอดระยะเวลากว่า 10 ปี

ถ้าเราไม่สามารถกดดัน หรือบอกกล่าวหน่วยงานรัฐในระดับสูงได้ ก็คงไม่สามารถช่วยชาวบ้านได้ รัฐธรรมนูญได้ให้สิทธิเสรีภาพของภาคประชาชนในการตรวจสอบการใช้อำนาจรัฐ การละเมิดกฎหมาย คอรัปชัน

ยื่นฟ้องทุกเรื่อง...เชี่ยวชาญจริงหรือไม่?

ประสบการณ์ที่ผมช่วยเหลือชาวบ้านทางคดี จากคดีที่เกี่ยวข้องกับสิ่งแวดล้อม นำไปสู่คดีที่หลากหลายเพิ่มขึ้น จนเกิดความชำนาญในการเขียนคำฟ้อง หรือการต่อสู้ทางคดีมากกว่า 3,000-4,000 คดี ประเด็นใดที่เกี่ยวข้องกับการใช้อำนาจรัฐ ก็ไม่ใช่เรื่องยากที่ผมจะเขียนคำร้อง หรือคำฟ้อง เพื่อช่วยเหลือชาวบ้านอย่างครอบคลุมทุกประเด็น

ผมน่าจะเป็นนักกฎหมายคนเดียวของไทย ที่มีคดีฟ้องร้องต่อศาลมากที่สุด เชื่อว่าสิ่งที่ผมตรวจสอบ ถูกใจคนจำนวนมาก เป็นสิ่งที่คนไทยส่วนใหญ่อยากให้มีการตรวจสอบ แต่อาจจะไม่มีช่องทาง ไม่กล้าพอ เกรงกลัวต่ออำนาจรัฐ หรืออิทธิพลอื่นๆ แต่สิ่งที่ผมทำ ผมคิดว่าถูกใจคนจำนวนมากและเป็นประโยชน์ต่อสาธารณะ ไม่นิ่งเฉยดูดายในการตรวจสอบผู้ใช้อำนาจรัฐ เพราะกระทบต่อวิถีชีวิต กระทบต่อการทำมาหากินและเงินภาษีของคนทั้งประเทศ

หลายคนอาจคิดว่าสิ่งที่ผมทำจะเอื้อประโยชน์คนบางกลุ่ม หรือเป็นการเตะหมูเข้าปากหมา แต่ผมคิดว่าการที่ยื่นเรื่องร้องเรียน หรือตรวจสอบที่ผ่านมา จะช่วยสร้างการรับรู้ในภาคประชาชน และภาครัฐเกรงกลัวต่อการกระทำความผิด

 

ศรีสุวรรณ ทำงานอะไร-เอาเงินจากที่ไหนมาร้องเรียน

ผมขอบคุณ พล.อ.ประยุทธ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ที่พูดถึงและทำให้คนทั้งประเทศรู้จักคนชื่อ ศรีสุวรรณ มากยิ่งขึ้น ส่วนข้อสงสัยของหลายคนว่าผมทำงานอะไร จริงๆ แล้วอาชีพผมคือนักกฎหมาย ที่รับเรื่องราวร้องทุกข์จากชาวบ้านที่ได้รับความเดือดร้อน โดยคดีที่ผมฟ้องร้องไป 3,000-4,000 คดี ทุกคดีผมจะไม่ขอรับค่าตอบแทน แต่ชาวบ้านกลุ่มใหญ่ก็เข้าใจและช่วยลงขันเป็นค่าน้ำมันและค่าใช้จ่ายอื่นๆ คดีละ 5,000-10,000 บาท นอกจากนี้ยังรับทำงานวิจัยให้กับสถาบันวิชาการ และมหาวิทยาลัย

ผมช่วยตั้งแต่ระดับมหาเศรษฐีจนถึงชาวบ้านรากหญ้า คนที่มีเงินเยอะก็พร้อมที่จะบริจาค เพื่อช่วยเหลือเป็นสินน้ำใจและเลี้ยงตัวเองและครอบครัว

ทีมงานเบื้องหลังของผม ส่วนใหญ่จะเป็นทนายความทั้งหมด ซึ่งจะมีสำนักงานทนายความเป็นของตัวเอง และใช้เวลาส่วนหนึ่งมาช่วยผมด้วยจิตสาธารณะ ไม่ได้คิดค่าวิชาชีพ ส่วนการรวบรวมข้อมูลแต่ละเรื่องร้องเรียนนั้นไม่ยาก เพราะผมยกร่างคำฟ้องนับพันคดี และติดตามข้อมูลข่าวสารผ่านทางสื่ออย่างต่อเนื่อง จึงเขียนคำร้องได้ง่ายและรวดเร็ว เพียงวันเดียวก็สามารถเขียนคำร้องแล้วเสร็จ

ตรวจสอบรัฐบาลประชาธิปไตย-รัฐบาลทหาร

ผมทำหน้าที่ตรวจสอบทุกรัฐบาลเหมือนกัน แต่รัฐบาลประชาธิปไตยอาจจะมีความคล่องตัว ไม่ต้องระมัดระวังแรงกดดันจากทางทหารมากนัก ส่วนยุคคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ผมก็ยังคงทำหน้าที่ตรวจสอบ แม้ว่าจะมีทหารเข้ามาเกี่ยวข้อง เช่น การถูกเชิญไปปรับทัศนคดี หรือมีทหารมาเยี่ยมที่บ้าน 20-30 ครั้ง

“ผมทำหน้าที่ตรวจสอบทุกรัฐบาลมาแล้วนับ 10 ปี ไม่เลือกที่รักมักที่ชัง ใครจะมากล่าวหาไม่ได้ว่าผมดำเนินการตรวจสอบ ฟ้องร้องคดี เพื่อเตะขารัฐบาลไหน”

 

ถูกข่มขู่-คุกคามบ้างหรือไม่

ผมเป็นเอ็นจีโอ ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วยกับภาครัฐทุกประเด็น แต่ต้องตรวจสอบประเด็นที่รัฐกระทำโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย การคุกคามแรกๆ จะมีการโทรศัพท์มาข่มขู่ ส่งคนมาเฝ้าหรือติดตาม ผมไม่เคยรู้สึกเกรงกลัวและไม่ได้ท้าทาย แต่จะระมัดระวังตัวเองมากขึ้น ไม่มีการแจ้งล่วงหน้าว่าผมจะไปที่ไหนบ้าง ไม่รายงานข้อมูลทันทีในสื่อสังคมออนไลน์

เรื่องยากที่สุดของศรีสุวรรณ

เรื่องที่ยากที่สุดในการตรวจสอบที่ผ่านมา คือ กรณีหมุดคณะราษฎรที่หายไป ทำให้ผมถูกเรียกไปปรับทัศนคติในค่ายทหาร ซึ่งจริงๆ แล้ว เรื่องดังกล่าวไม่ใช่เรื่องที่ลี้ลับซับซ้อน หรือมีผู้อยู่เบื้องหลัง แต่ผมเห็นว่าหมุดคณะราษฎร เป็นสัญลักษณ์ในเชิงประชาธิปไตย ไม่ควรออกไป จึงต้องร้องเรียนให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้ามาตรวจสอบ หลังหน่วยงานรัฐไม่ได้ดำเนินการปกป้องคุ้มครอง ก็เป็นเรื่องที่สร้างความหนักใจให้กับตัวเอง แต่ทำให้คนทั้งประเทศรู้จัก "ศรีสุวรรณ จรรยา" มากยิ่งขึ้น

ความภาคภูมิใจที่สุดของนักร้องเรียน

ผมทำหน้าที่มาแล้วกว่า 10 ปี มีหลายเรื่องที่เป็นความภาคภูมิใจ เช่น การช่วยเหลือพี่น้องในพื้นที่นิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุด จังหวัดระยอง นำไปสู่การเปลี่ยนแปลงกฎหมายและระบบของผู้ประกอบการเอกชน หรือ CSR ดูแลชุมชน, การตรวจสอบในยุครัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ช่วยปกป้องภาษีประชาชน 3.5 แสนล้านบาท ในโครงการบริหารจัดการน้ำ โดยขอให้ศาลคุ้มครองชั่วคราว ระงับการใช้เงินอย่างไม่เหมาะสม

ความสำเร็จในการยื่นเรื่องร้องเรียน หรือตรวจสอบ เฉลี่ยร้อยละ 50 บางเรื่องผู้ที่ถูกร้องเรียนอาจตีเรื่องตก แต่เป้าหมายของผม คือ ต้องการสื่อสารกับสาธารณชน เพื่อให้รับรู้ถึงความผิดปกติ ซึ่งอาจทำให้สังคมไม่พอใจ สร้างความเดือดร้อนกับประชาชน พบว่าปัจจุบันประชาชนเริ่มตระหนักในเรื่องสิทธิของตัวเองมากยิ่งขึ้น หลังจากนี้ภาคประชาชนจะเข้าไปมีส่วนร่วมในการตัดสินใจเกี่ยวกับโครงการใหญ่ๆ ของภาครัฐและเอกชน ทำให้ข้าราชการ หรือนักการเมือง ระมัดระวังในการใช้อำนาจ

 

จะทำหน้าที่นักร้องเรียนถึงเมื่อไหร่

ผมมีความสุขกับการทำงาน ไม่ได้ซีเรียส หรือเคร่งเครียดกับสิ่งที่ทำมากนัก ที่สำคัญไม่มีใครมาเป็นเจ้านาย หรือสั่งการบงการผม

ผมคิดว่าจะหยุดเคลื่อนไหวเมื่อตัวเกษียนอายุออกไป แต่ถึงเวลานั้นจริงผมอาจจะไม่สามารถหยุดตัวเองได้ เพราะผูกพันกับพี่น้องประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนทั่วประเทศ ก็ต้องช่วยจนกว่าจะหมดแรง ซึ่งเรื่องที่น่ากังวล คือ ปัญหาปากท้องของประชาชน และการใช้อำนาจรัฐที่ไม่ถูกต้อง ซึ่งยังพบเห็นอยู่บ้าง เช่น การใช้อำนาจ หรืออิทธิพลอื่นๆ มากดดัน ข่มขู่ ทำลายแกนนำชาวบ้าน หรือสร้างความหวาดกลัว แม้สังคมจะก้าวเข้าสู่ยุคดิจิทัลแล้วก็ตาม ขณะที่รัฐต้องเข้าไปควบคุม ดูแล และตรวจสอบกลไกดังกล่าวให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น เพื่อให้ชาวบ้านลดความหวาดกลัวและเข้าไปมีส่วนร่วมกับการพัฒนาประเทศ

หวังใช้กระแสสื่อ ปูทางเข้าสู่การเมือง-องค์กรอิสระหรือไม่

ก่อนหน้านี้ผมเคยสนใจการเมือง เพราะวิถีการทำงานก็มีความผูกพันกับนักการเมืองทุกระดับ แต่ทุกวันนี้มั่นใจแล้วว่าบทบาทของผม คือการเป็นเอ็นจีโอ หรือนักเคลื่อนไหวแทนชาวบ้าน ในการตรวจสอบการใช้อำนาจรัฐ ผมไม่ได้อยากเป็นนักการเมือง หรือดำรงตำแหน่งในองค์กรอิสระ

ผมไม่มีความกระสันที่อยากจะเป็นนักการเมือง ในอนาคตไม่ได้จะไปลงเลือกตั้งเป็น ส.ส. ส.ว. หรือดำรงตำแหน่งในองค์กรอิสระ

จับตาประเด็นร้อนปี 2561

ปี 2561 ผมก็ยังคงทำหน้าที่ตามปกติ โดยรับเรื่องร้องเรียนจากชาวบ้าน เน้นการตรวจสอบการใช้อำนาจรัฐและนักการเมือง เนื่องจากเข้าสู่โหมดการเลือกตั้ง รวมทั้งต้องกระตุ้นเตือนสังคม และเน้นย้ำผู้ใช้อำนาจรัฐให้อยู่ในกฎเกณฑ์ของกฎหมาย และตรวจสอบองค์กรอิสระในการทำหน้าที่อย่างถูกต้อง

 

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง