วันนี้ (4 ม.ค.2561) สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า ตู้รถไฟตู้แรกของขบวนรถไฟ ซึ่งวิ่งอยู่ในเมืองทางตอนกลางของประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ถูกลมกระโชกแรงพัดจนพลิกคว่ำตกจากราง ทำให้มีผู้โดยสารบาดเจ็บ 8 คน เหตุการณ์ครั้งนี้เกิดจากอิทธิพลของพายุฤดูหนาวเอลินอร์ที่พัดถล่มเข้าถล่มสวิตเซอร์แลนด์ เช่นเดียวกับหลายพื้นที่ในยุโรปตอนเหนือ โดยความเร็วลมบนยอดเขาใกล้กับเมืองลูเซิร์น วัดได้สูงถึง 195 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ซึ่งรุนแรงที่สุดเป็นประวัติการณ์ นับตั้งแต่มีการเริ่มเก็บสถิติ เมื่อปี 2524
หน่วยงานอุตุนิยมวิทยาของสวิตเซอร์แลนด์ประกาศเตือนให้ประชาชนระมัดระวังผลกระทบจากลมกระโชกแรงในหลายพื้นที่ของประเทศ โดยทางการสั่งยกเลิกเที่ยวบินจำนวนมาก รวมถึงปิดถนนและท่าเรือข้ามฟากบางส่วนเป็นการชั่วคราว เพื่อความปลอดภัยของประชาชน
ส่วนในฝรั่งเศส พายุเอลินอร์สร้างความปั่นป่วนโดยกระแสลมที่มีความเร็วสูงสุดถึง 147 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ส่งผลให้บ้านเรือนประมาณ 200,000 หลัง ทางตอนเหนือของประเทศไม่มีกระแสไฟฟ้าใช้ นอกจากนี้ ยังเกิดน้ำท่วมขังตามท้องถนน เนื่องจากคลื่มลมทะเลที่รุนแรง โดยหน่วยงานอุตุนิยมวิทยาฝรั่งเศสประกาศเตือนภัยระดับสีส้ม ซึ่งสูงสุดเป็นอันดับ 2 ในพื้นที่ส่วนใหญ่ทางตอนเหนือและตะวันออกของประเทศ ให้ประชาชนหลีกเลี่ยงการออกไปยังที่โล่งแจ้งและระวังอันตรายจากต้นไม้หักโค่น
เช่นเดียวกับบนเกาะเจอร์ซีย์ ซึ่งเกิดคลื่นลมแรงปะทะแนวกั้นชายฝั่ง ส่งผลกระทบต่อการสัญจรตามเส้นทางเลียบชายหาด เจ้าหน้าที่ต้องกระจายกำลังอำนวยความสะดวกแก่ประชาชนและปิดถนนบางส่วนที่มีต้นไม้หักโค่นขวางเส้นทาง เพื่อความปลอดภัย หน่วยงานอุตุนิยมวิทยาของอังกฤษ ระบุว่า อิทธิพลของพายุเอลินอร์ ประกอบกับกระแสน้ำขึ้น อาจทำให้เกิดคลื่นสูง จนเป็นอันตรายต่อที่อยู่อาศัยซึ่งตั้งอยู่ริมทะเล
ส่วนบริเวณแนวชายฝั่งของเวลส์ทั้งทางตอนเหนือและตอนใต้ ได้รับผลกระทบจากอิทธิพลของพายุฤดูหนาวลูกนี้ ที่ทำให้เกิดคลื่มลมแรงปะทะชายฝั่ง โดยหน่วยงานอุตุนิยมวิทยาของอังกฤษประกาศเตือนภัยระดับสีเหลืองในพื้นที่บางส่วนของเวลส์ให้ประชาชนระวังภัยจากสภาพอากาศแปรปรวน
ขณะที่ในอังกฤษและไอร์แลนด์เหนือ อิทธิพลของพายุพัดต้นไม้และเสาไฟฟ้าหักโค่นกีดขวางถนน รวมถึงสร้างความเสียหายแก่หลังคาอาคารหลายแห่ง บ้านเรือนหลายหมื่นหลังไม่มีกระแสไฟฟ้าใช้ โดยในไอร์แลนด์เหนือ เจ้าหน้าที่วัดความเร็วลมได้สูงสุดถึง 155 กิโลเมตรต่อชั่วโมง