วันนี้ (8 ม.ค.2561) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า คณะกรรมการพิจารณาค่าแรงขั้นต่ำ (ไตรภาคี) เตรียมประชุมเพื่อสรุปอัตราค่าจ้างขั้นต่ำ 2-15 บาท ในสัปดาห์นี้ ขณะที่ประชาชนแสดงความกังวลว่า จะส่งผลให้ราคาสินค้าปรับตัวสูงขึ้น สวนทางกับรายได้ที่ลดลง เนื่องจากภาวะเศรษฐกิจ พร้อมเสนอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดูแลราคาสินค้าให้เหมาะสม
นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ระบุว่า ตัวเองได้ศึกษาผลกระทบจากการปรับขึ้นค่าแรงไว้แล้ว พร้อมเตรียมมาตรการดูแลสินค้าเพื่อไม่ให้กระทบกับผู้บริโภค แต่ต้องรอผลจากการพิจารณาอัตราค่าจ้างว่าจะปรับเท่าไหร่ ถึงจะประเมินผลกระทบที่ชัดเจนได้
หากปรับขึ้น ก็ต้องดูว่าปรับเท่าไร ปรับอย่างไร ปรับทั้งประเทศเหมือนกันหมด หรือปรับเป็นบางพื้นที่ จากนั้นจะดูผลกระทบต่อโครงสร้างราคาสินค้าอย่างไร ซึ่งกระทรวงพาณิชย์ได้ศึกษาอยู่แล้ว
ขณะที่นายเจน นำชัยศิริ ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย ระบุว่า ในวันพรุ่ง (9 ม.ค.2561) คณะกรรมการภาคเอกชนร่วม 3 สถาบัน (กกร.) จะแถลงจุดยืนเรื่องการปรับค่าแรงใหม่ โดยต้องการให้คณะกรรมการไตรภาคีพิจารณาการปรับค่าแรงขั้นต่ำอย่างรอบคอบ โดยเฉพาะหากปรับสูงสุดวันละ 15 บาท ซึ่งจะกระทบกับผู้ประกอบการเอสเอ็มอี เพราะความสามารถในการจ่ายค่าจ้างต่ำ และเห็นว่าผู้ได้ประโยชน์ คือแรงงานข้ามชาติ
น.ส.สลิลลา สีหพันธุ์ รองประธานกรรมการฝ่ายกิจการบรรษัท เทสโก้ โลตัส ระบุว่า ยังต้องติดตามสถานการณ์ว่าจะกระทบกับราคาสินค้ามากน้อยเพียงใด ซึ่งขึ้นอยู่กับผู้ผลิตสินค้าแต่ละรายที่จะบริหารต้นทุน