หลังถูกสื่อสังคมออนไลน์วิพากษ์วิจารณ์กรณีกองถ่ายภาพยนตร์ต่างประเทศถ่ายทำฉากที่ไม่เหมาะสม สื่อไปในลักษณะแหล่งขายเซ็กซ์ทอย บริเวณถนนข้าวสาร กระทั่งหลายฝ่ายกังวลว่าจะเสื่อมเสียภาพลักษณ์ของประเทศและกระทบต่อวัฒนธรรมประเพณี การท่องเที่ยวและความรู้สึกของคนไทย
วันนี้ (19 ม.ค.2561) นายอนันต์ วงศ์เบญจรัตน์ อธิบดีกรมการท่องเที่ยว กล่าวว่า บริษัท อินโด แบงคอกฟิล์ม จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทผู้ประสานงานกองถ่ายภาพยนตร์ต่างชาติ ยื่นหนังสือขออนุญาตใช้ถนนข้าวสารถ่ายทำภาพยนตร์อินเดีย โดยสมมุติว่าเป็นเมืองไทยและไม่มีเนื้อหาล่อแหลม แต่เมื่อถ่ายทำจริงกลับจัดฉากและมีเนื้อหาต่างจากที่ยื่นเรื่องให้พิจารณา กรรมการที่ติดตามการถ่ายทำภาพยนตร์ดังกล่าวในขณะนั้นเห็นว่าไม่เหมาะสม จึงสั่งยุติการถ่ายทำทันทีและลงโทษตามกฎหมายภาพยนตร์และวิดีทัศน์
ขณะนี้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ดำเนินคดีกับเจ้าของกองถ่าย และผู้ได้รับอนุญาตก็ได้สั่งให้ยกเลิกการถ่ายทำทั้งหมด และถ้าจะมาถ่ายทำต้องเขียนบทมานำเสนอใหม่ โดยยืนยันว่าภาพยนตร์ที่ได้ถ่ายทำแล้ว และเกิดปัญหาไม่ได้ถูกให้นำออกไปจนเสื่อมเสียภาพลักษณ์กับประเทศไทย ขณะเดียวกันได้สั่งเพิกถอนใบอนุญาตของบริษัทดังกล่าวด้วย เนื่องจากไม่ดูแลให้การถ่ายทำเป็นไปตามกฎระเบียบ
อธิบดีกรมการท่องเที่ยว กล่าวด้วยว่า การเข้ามาถ่ายทำภาพยนตร์ต่างประเทศในประเทศไทย จะต้องขออนุญาตชัดเจน โดยส่งบทที่จะถ่ายทำมาให้คณะกรรมการพิจารณาก่อน ซึ่งหลักเกณฑ์หลักๆ ต้องไม่มีภาพ ตัวหนังสือ ข้อความ ที่กระทบต่อภาพลักษณ์ของประเทศ โดยเฉพาะพื้นที่ท่องเที่ยว และทุกครั้งกรรมการจะลงพื้นที่กับกองถ่ายภาพยนตร์เพื่อกำกับดูแลใกล้ชิด ที่ผ่านมาการละเมิดลักษณะเช่นนี้น้อยมาก
ด้าน พ.ต.อ.พิทักษ์ สุทธิกุล ผู้กำกับการสถานีตำรวจนครบาลชนะสงคราม เปิดเผยถึงการดำเนินคดีเพิ่มเติมกับบริษัทผู้ผลิตภาพยนตร์ว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างรวบรวมหลักฐาน ก่อนสรุปให้อัยการ พร้อมยืนยันว่าถนนข้าวสาร เป็นสถานที่ท่องเที่ยวของชาวต่างชาติและศูนย์รวมความบันเทิงเท่านั้น ไม่ใช่สถานที่ขายบริการ
ข้อมูลจากตำรวจนครบาลชนะสงคราม พบว่าแม้จะมีนักท่องเที่ยวมาถ่ายทำภาพยนตร์จำนวนมาก แต่ก็ยังไม่พบการร้องเรียนว่าถ่ายทำไม่เหมาะสม แต่หลังเกิดเหตุการณ์นี้ก็เตรียมหามาตรการเพิ่มความเข้มงวดตรวจสอบนักท่องเที่ยวให้มากขึ้น
ผู้ประกอบการถนนข้าวสารหวั่นกระทบภาพลักษณ์
นายปิยะบุตร จิวระโมไนย์กุล นายกสมาคมผู้ประกอบการค้าถนนข้าวสาร สะท้อนว่า แม้ฉากการถ่ายทำภาพยนตร์ดังกล่าวได้จำลองเป็นสถานที่ประเทศอื่นและถูกระงับการถ่ายทำไปแล้ว แต่ก็มีความกังวลว่าชาวต่างชาติบางส่วนอาจเข้าใจผิดเกี่ยวกับภาพลักษณ์ด้านการท่องเที่ยวถนนข้าวสาร และประเทศไทยในภาพรวม
ด้านนายสิทธิชัย ผลหิตตานนท์ ประธานประชาคมฟื้นฟูวัฒนธรรมย่านบางลำพู ระบุว่า ที่ผ่านมาถนนข้าวสารและย่านท่องเที่ยวใกล้เคียง คือถนนสายวัฒนธรรมและบันเทิงที่ชาวต่างชาติให้คุณค่าความสำคัญ
ส่วนผู้ประกอบการและชาวชุมชนในพื้นที่เห็นตรงกันว่า หน่วยงานภาครัฐควรมีกระบวนการตรวจสอบติดตามชาวต่างชาติที่ขออนุญาตเข้ามาถ่ายทำภาพยนต์ให้เคร่งครัดมากกว่านี้ แทนที่จะให้น้ำหนักเรื่องผลประโยชน์จากการท่องเที่ยว แล้วค่อยติดตามระงับเหตุในภายหลัง