ตำรวจรถไฟหัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ ร่วมกับตำรวจกองบัญชาการปราบปรามยาเสพติด ตำรวจศูนย์พิสูจน์หลักฐาน 7 จ.นครปฐม และตำรวจภูธร จ.ประจวบคีรีขันธ์ ตรวจสอบกระเป๋าเดินทางขนาดใหญ่จำนวน 5 ใบและกระเป๋าเป้สะพายอีก 4 ลูก บนขบวนรถเร็วที่ 171 กรุงเทพฯ-สุไหงโกลก พบว่าภายในกระเป๋าเดินทางและเป้สะพายทั้งหมดมียาไอซ์บรรจุอยู่
คาดว่ากลุ่มขบวนการขนยาไอซ์เป็นชาย 4 คน ซึ่งโดยสารมากับขบวนรถไฟดังกล่าว พร้อมกระเป๋าเดินทางและกระเป๋าเป้สะพาย ในโบกี้ที่ 13/14 ซึ่งเป็นรถนอนแบบพัดลมและมีที่เก็บของ ขณะที่รถไฟกำลังชะลอความเร็วแล่นเข้าจอดที่สถานีรถไฟบ้านโป่ง มีผู้พบเห็นชาย 4 คนคาดว่าเป็นผู้ที่ขนยาไอซ์มา เกิดไหวตัวทันและกระโดดลงจากรถไฟหลบหนี
จากนั้นตำรวจได้กระจายกำลังกันค้นโบกี้ที่ 13/1 เลขที่นอน/นั่ง 1-4 พบกระเป๋าเดินทางและกระเป๋าเป้สะพาย และตรวจสอบอีก 18 ตู้ ก่อนนำของกลางลงที่สถานีรถไฟหัวหิน จากการตรวจค้นไม่พบผู้ต้องสงสัย มีเพียงกระเป๋าเดินทางและกระเป๋าเป้ รวม 9 ใบ จึงทำการเปิดกระเป๋าและพบว่าทั้ง 9 ใบมียาไอซ์บรรจุอยู่ ซี่งกระเป่าเดินทางบางลูกบรรจุยาไอซ์ตั้งแต่ 36-44 ก้อน ส่วนกระเป๋าเป้ บรรจุยาไอซ์ตั้งแต่ 11-14 ก้อน โดยคาดว่าเตรียมนำส่งไปยังภาคใต้
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายตำรวจระดับสูง ตำรวจรถไฟและตำรวจนอกเครื่องแบบ ที่ไปติดตามการเปิดกระเป๋าเดินทางและเป้สะพานได้ขอร้องไม่ให้ผู้สื่อข่าวบันทึกภาพ โดยเกรงว่าผู้ต้องหาจะไหวตัวหลบหนี เนื่องจากเจ้าหน้าที่ตำรวจกำลังกระจายกำลังติดตามตัวอยู่
เบื้องต้น ผู้สื่อข่าวได้สังเกตจำนวนยาไอซ์ที่ติดไว้ที่กระเป๋าเดินทางและกระเป๋าเป้แต่ละใบ พบว่ามีจำนวนรวมกันทั้งหมด 250 ก้อน น้ำหนักก้อนละประมาณ 1.2 กิโลกรัม รวมน้ำหนักทั้งหมดประมาณ 300 กิโลกรัม มูลค่ากว่า 900 ล้านบาท ซึ่งจะมีการขนของกลางทั้งหมดเข้ากรุงเทพฯ ในวันนี้ (6 ก.พ.2561)