วันนี้ (10 ก.พ.2561) ไทยพีบีเอส ลงพื้นที่สำรวจความคืบหน้าโครงการก่อสร้างทางเชื่อมผืนป่า และการขยายทางหลวงแผ่นดิน 304 เพื่อเชื่อมผืนป่าอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ และอุทยานแห่งชาติทับลาน ให้สัตว์ป่าใช้อุโมงค์ทางลอด ลดการสูญเสีย ซึ่งเป็นหนึ่งในโครงการของบริษัทอิตาเลียนไทย ที่เกี่ยวข้องกับโครงการที่เกี่ยวข้องด้านสิ่งแวดล้อม
แต่เมื่อผู้บริหารบริษัท ถูกจับข้อหาล่าสัตว์ป่าในเขตรักษาพันธ์ุสัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวร ฝั่งตะวันตก จ.กาญจนบุรี ทำให้หลายหน่วยงานและประชาชน ตั้งคำถาม ถึงโครงการ อุโมงค์ทางลอด ลดการสูญเสีย แต่เมื่อ ผู้บริหารบริษัท ถูกจับ ข้อหาล่าสัตว์ป่า ทำให้หลายหน่วยงานและประชาชน ตั้งคำถาม ถึงโครงการ
![](https://news.thaipbs.or.th/media/TSNBg3wSBdng7ijM6G2dMOyQG0FP6PLqeJdQof0CDe6.png)
จากการสำรวจภาพรวมพบว่าเหลืออีกไม่ถึงร้อยละ 50 โครงการก่อสร้างทางเชื่อมผืนป่า และการขยายทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 304 สัตว์ป่าจากอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ และอุทยานแห่งชาติทับลานจะมาอยู่อาศัยได้ และสามารถข้ามไปมาระหว่างป่าได้อย่างปลอดภัย
แต่ละวันมีทั้งรถยนต์ และรถบรรทุกวิ่งบนเส้นทางหลวงหมายเลข 304 มากกว่าวันละ 20,000 คัน แต่ถนนมีเพียง 2 ช่องจราจรและมีสภาพเป็นคอขวด ทำให้เกิดอุบัติเหตุบ่อยครั้ง เพราะรถมักเฉี่ยวชนสัตว์ป่า เนื่องจากถนนเส้นนี้ ตัดผ่านผืนป่ามรดกโลก ดงพญาเย็น-เขาใหญ่ ระหว่างอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่และอุทยานแห่งชาติทับลาน ซึ่งยูเนสโก ขึ้นบัญชีเป็นแหล่งมรดกโลกทางธรรมชาติ
![](https://news.thaipbs.or.th/media/TSNBg3wSBdng7ijM6G2dMOyQG0FP6PS3LYnq0wqKmbw.png)
โครงการนี้ แบ่งงานย่อยออกเป็น 3 โครงการ โดยบริษัท อิตาเลียนไทย ดีเวล็อปเมนต์ จำกัด มหาชนคว้างานประมูล ได้สัมปทานไป 2 โครงการ ได้แก่ โครงการก่อสร้างอุโมงค์ขนาดใหญ่สำหรับรถยนต์วิ่งลอดอุโมงค์ ส่วนด้านบนจะถมดินด้านบนอุโมงค์และปลูกต้นไม้ ให้สัตว์ป่าทั้ง 2 อุทยานมาอาศัย ตั้งอยู่บริเวณอำเภอกบินทร์บุรี-ปักธงชัย ซึ่งเชื่อมกับป่าจังหวัดปราจีนบุรี คาดว่าจะแล้วเสร็จในปลายปีนี้
ส่วนอีกโครงการเป็นสะพานยกระดับ ให้รถยนต์วิ่งบนสะพาน และสัตว์ป่าเดินลอดใต้สะพาน บริเวณอำเภอกบินทร์บุรี-วังน้ำเขียว คาดว่าจะแล้วเสร็จภายในปี 2562
โครงการนี้ถูกตั้งคำถามถึงความคุ้มค่า โดยชาวบ้านในพื้นที่ ไม่เชื่อว่า สัตว์ป่าจะข้ามสะพาน หรือลอดใต้สะพาน ตามเป้าหมายโครงการ โดยบอกว่าที่เห็นแมีแต่งู เป็นส่วนใหญ่ และข้ามไปก็จะเจอคลอง และพอเไปอีกฝั่งก็เป็นเหว แล้วสัตว์จะเดินลงไปได้อย่างไร เป็นไปยาก
![](https://news.thaipbs.or.th/media/TSNBg3wSBdng7ijM6G2dMOyQG0FP6PPfwTy5asvtXUq.png)
โครงการทั้งสอง ของบริษัทอิตาเลียนไทยฯ ดูเหมือนเป็นผลงานชิ้นโบว์แดง ช่วยลดการสูญเสียสัตว์ป่า บนผืนป่ามรดกโลก แต่ผู้บริหารสูงสุดของบริษัท กลับถูกแจ้งข้อหา ล่าสัตว์ใกล้สูญพันธุ์ ในป่าอนุรักษ์ รวม 10 ข้อหา สร้างความสะเทือนใจคนในพื้นที่ จึงประกาศว่า จะจับตาการดำเนินโครงการนี้อย่างใกล้ชิด
นายกฤษติชัย สุขมังษา นายกสมาคมเครือข่ายอนุรักษ์มรดกโลกผืนป่าเขาใหญ่ดงพญาเย็น กล่าวว่า บริษัทนี้ ถ้าจะได้รับสัมปทานต่อในอนาคต หรือต่อไปเห็นว่าภาครัฐต้องวิเคราะห์ว่าควรจะให้ หรือไม่ให้ทำโครงการ เพราะกรณีที่ีเกิดขึ้นถือเป็นความเสียหายของประเทศชาติ ควรต้องช่วยกันดูทั้งนี้ไม่แย้งว่าเป็นเรื่องส่วนบุคคล แต่นายเปรมชัย เป็นประธานบริษัทที่นังทับหัวอยู่
![](https://news.thaipbs.or.th/media/TSNBg3wSBdng7ijM6G2dMOyQG0FP6PR0vU30PCg024e.png)
ด้านนายธานินทร์ สมบูรณ์ อธิบดีกรมทางหลวง ยืนยันว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เป็นพฤติกรรมส่วนบุคคล แต่การดำเนินโครงการภาครัฐ เป็นความสามารถของบริษัท ซึ่งตรงตามระเบียบการจัดซื้อจัดจ้าง
บริษัทความสามารถและเชี่ยวชาญทางด้านเทคนิค เพราะโครงการนี้ป็นอุโมงค์ขุดแบบถมกลับ ต้องใช้เทคโนโลยี ต้องมีความชำนาญในการก่อสร้าง มีไม่กี่บริษัทที่ทำได้ และที่ประกวดราคามา และส่วนใญ่ไม่ให้ความสนใจ เพราะทำยาก
แม้โครงการนี้จะเป็นโครงการที่ไม่กระทบผืนป่าและดำเนินการตามขั้นตอนถูกต้องก็ตาม แต่จากนี้ไปอิตาเลียนไทยจะถูกตั้งคำถามหรือถูกจับตาจากสังคมมากขึ้น ในการดำเนินโครงการต่างๆ ที่ได้รับสัมปทานจากรัฐไม่ว่าจะเป็น โครงการก่อสร้างโรงไฟฟ้าโครงการก่อสร้างเขื่อน ถนนมอเตอร์เวย์ รถไฟทางคู่ รถไฟฟ้า ฯลฯ ว่าจะมีความรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อมหรือไม่