วันนี้ (14 ก.พ.2561) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สมาคมต่อต้านสภาวะโลกร้อนออกแถลงการณ์เรื่องขอเรียกร้องให้คณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติประกาศให้ กทม.เป็นเขตควบคุมมลพิษ โดยระบุว่า ตามที่เกิดปรากฏการณ์หมอกพิษ จนทำให้พื้นที่กรุงเทพมหานครมีคุณภาพอากาศเกินมาตรฐาน หลายครั้งหลายหนอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะฝุ่นละออง PM 2.5 เป็นเหตุให้ประชาชนเจ็บป่วย ใช้ชีวิตอย่างยุ่งยาก เพราะต้องคอยหาหน้ากากป้องกันฝุ่นมาสวมใส่ตลอดเวลา เกิดทัศนวิสัยการมองเห็นลดต่ำลง ฯลฯ ซึ่งกรณีดังกล่าวรัฐบาลรับรู้มาโดยตลอดแล้ว แต่กลับตีกรรเชียงเลี่ยงที่จะตัดสินใจในการแก้ไขปัญหาให้เกิดมรรคผลอย่างรวดเร็ว หากปล่อยเนิ่นช้าไปจะกระทบต่อการท่องเที่ยว และจะเป็นการทำลายสุขภาพของประชาชนในระยะยาวได้
ทั้งนี้ ปัญหาหลักที่เกิดขึ้นมีมาจากปัจจัยหลายประการ ทั้งการเผาฟางข้าวหลังเก็บเกี่ยวในบริเวณพื้นที่รอบๆ กทม. โครงการก่อสร้างอาคารสูง การก่อสร้างรถไฟฟ้า ถนน ที่ขาดมาตรฐานการควบคุมฝุ่นละอองตามที่ EIA กำหนด แต่ที่เป็นปัจจัยหลัก คือไอเสียจากยานยนต์ทุกชนิดในกรุงเทพมหานครที่สะสมมีมากกว่า 9,820,987 คัน หากรวมรถที่จดทะเบียนรอบปริมณฑลแต่นำเข้ามาขับขี่ในพื้นที่กรุงเทพมหานครก็น่าจะมีจำนวนมหาศาลด้วย
กรณีปัญหาที่เกิดขึ้นสมาคมต่อต้านสภาวะโลกร้อนขอเรียกร้องให้คณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติใช้อำนาจตามมาตรา 59 แห่ง พ.ร.บ.ส่งเสริมและรักษาคุณภาพสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ 2535 เพื่อที่กรุงเทพมหานครจะได้มีอำนาจหน้าที่ในการจัดทำแผนปฏิบัติการเพื่อลดและขจัดมลพิษตามมาตรา 60 ได้ ซึ่งรัฐบาลกลางจะได้สนับสนุนงบประมาณในการแก้ไขปัญหามลพิษให้สำเร็จลงได้ ทั้งนี้ ภาคประชาชนจะได้มีส่วนร่วมในการช่วยกันลดมลพิษตามที่กฎหมายกำหนดได้
ทั้งนี้ มีข้อสังเกตว่าจังหวัดปริมณฑลรอบพื้นที่กรุงเทพมหานคร เช่น จ.สมุทรปราการ (ฉ.9/2537) จ.ปทุมธานี นนทบุรี สมุทรสาคร นครปฐม (ฉ.11/2538) ต่างถูกประกาศให้เป็นเขตควบคุมมลพิษมานานแล้ว ตั้งแต่ปี 2537-2538 แต่พื้นที่ของกรุงเทพมหานครที่มีแหล่งกำเนิดมลพิษมากกว่าหลายเท่าทั้ง น้ำเสีย ขยะ มลพิษทางอากาศ ฯลฯ คณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติกลับไม่หยิบยกกรณีปัญหาต่างๆ มาเพื่อประกาศเป็นเขตควบคุมมลพิษเลย ซึ่งไม่แน่ใจว่าคณะกรรมการฯ มัวเกรงอกเกรงใจผู้ประกอบการนายทุนหรืออย่างไร
สมาคมต่อต้านสภาวะโลกร้อน จึงใคร่ขอเรียกร้องให้คณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ ใช้อำนาจในการประกาศให้พื้นที่กรุงเทพมหานครเป็นเขตควบคุมมลพิษโดยเร็ว หากคณะกรรมการฯ ทั้งหลายยังรักและเป็นห่วงในสุขภาพอนามัยของประชาชนที่ต้องทนทุกข์อยู่ในโดมมลพิษของกรุงเทพฯ ในขณะนี้ และถือเป็นการมอบความรักให้คนใน กทม.ในวันวาเลนไทม์นี้ด้วย
ประกาศมา ณ วันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2561
นายศรีสุวรรณ จรรยา
นายกสมาคมต่อต้านสภาวะโลกร้อน