นางแพตริเซีย มงคลวนิช รองอธิบดีกรมสรรพากร ระบุว่า ที่ผ่านมาผู้ประกอบการตลาดยิ่งนรา ยื่นเสียภาษีในนามบุคคลธรรมดา ไม่ใช่นิติบุคคลตามที่เป็นข่าว ซึ่งกรมสรรพากรไม่สามารถเปิดเผยข้อมูลผู้เสียภาษี รวมทั้งตัวเลขรายได้ เนื่องจากเป็นความลับของผู้เสียภาษี
ส่วนบริษัทยิ่งนรา เป็นนิติบุคคลที่มีชื่อพ้องกับตลาดดังกล่าว ได้จดทะเบียนเพื่อประกอบกิจการซื้อขายอสังหาริมทรัพย์ ซึ่งที่ผ่านมาได้มีการยื่นแบบแสดงรายการภาษีเงินได้นิติบุคคลเช่นกัน
ขณะที่แม่ค้าขายอาหารร้านยิ่งนรา มาประมาณ 10 ปี ยอมรับว่าทุกปีจะต้องเสียภาษีให้กับกรมสรรพากร และที่ผ่านมาก็มีการจ่ายค่าเช่าแผงมาโดยตลอด เดือนละ 3,000 บาท หรือเฉลี่ยวันละ 100 บาท
รายงานข่าวจากกรมสรรพากร ระบุด้วยว่า การดำเนินธุรกิจตลาดในปัจจุบัน สามารถยื่นเสียภาษีได้ทั้งในนามบุคคลธรรมดา หรือนิติบุคคล ซึ่งการเสียภาษีจะแตกต่างกัน โดยบุคคลธรรมดายื่นรายได้ตามจริง และสามารถหักค่าใช้จ่ายเป็นการเหมาได้ร้อยละ 60 และหากผู้เสียภาษีมีหลักฐานค่าใช้จ่ายในการประกอบธุรกิจ ก็สามารถหักเพิ่มได้ตามหลักฐานนั้นได้ รวมทั้งยังสามารถหักค่าลดหย่อนต่างๆ ได้เพิ่ม มาคำนวนอัตราภาษีเงินได้ แต่หากเป็นนิติบุคคล จะใช้รายได้หักด้วยต้นทุนที่เกิดขึ้นจริง เมื่อมีกำไรจึงเสียภาษีและต้องมีการจัดทำบัญชีและผู้สอบบัญชีรองรับ