เมื่อวานนี้ (6 มี.ค.2561) หลังจำหน่ายคดีชั่วคราวไว้เกือบ 10 ปี องค์คณะผู้พิพากษาศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ออกนั่งบัลลังก์พิจารณาคดี นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ใช้อำนาจสั่งการแปลงค่าสัมปทานกิจการโทรคมนาคมให้เป็นภาษีสรรพสามิต เพื่อเอื้อประโยชน์แก่ธุรกิจของตัวเองและครอบครัว
และมีคำสั่งนัดคู่ความตรวจพยานวันที่ 10 กรกฎาคม และสั่งให้ออกหมายจับ นายทักษิณ กรณีไม่ปรากฏตัวต่อศาลและไม่มาฟังพิจารณาคดี และให้แจ้งนัดให้จำเลยทราบตามที่อยู่ทะเบียนราษฎร์ ที่แจ้งไว้ย่านจรัญสนิทวงศ์ หากไม่มีผู้รับ ให้ติดหมายนัดที่บ้านพักจำเลย ขณะที่นายพิชิฏ ชื่นบาน ทนายความ ยืนยันว่านายทักษิณไม่ได้มอบหมายงานใดๆ
นอกจากคดีนี้แล้วยังมีคดีที่อัยการสูงสุดและ ป.ป.ช.ในฐานะโจทก์ จะยื่นฟ้องคดีและร้องขอให้ศาลฯ พิจารณาคดีลับหลังจำเลย ตามกฎหมายใหม่อีก 3 คดี ประกอบด้วยคดีทุจริตปล่อยกู้ธนาคารกรุงไทย, คดีทุจริตการปล่อยกู้เอ็กซิมแบงก์และคดีหวยบนดิน
การพิจารณาคดีลับหลังจำเลยได้เป็นอำนาจโดยชอบของศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ที่เป็นไปตาม พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญ วิธีพิจารณาคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองปี 2560