วันนี้ (16 มี.ค.2561) นายศศิน เฉลิมลาภ ประธานมูลนิธิสืบนาคะเสถียร พร้อมตัวแทนเครือข่ายอนุรักษ์ นำรายชื่อประชาชนจำนวน 142,189 รายชื่อจากแคมเปญรณรงค์ใน change.org ร้องเรียนให้ดำเนินคดีกับผู้ล่าสัตว์ในเขตอุทยานให้โปร่งใสเป็นธรรม มอบให้ พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ แล้ว
นายศศิน กล่าวว่า การขอเข้าพบครั้งนี้ เพื่อขอความมั่นใจให้สำนวนคดีนายเปรมชัย กรรณสูต ประธานบริหารบริษัท อิตาเลียนไทย ดีเว๊ลอปเมนต์ จำกัด (มหาชน) และพวก 4 คนเข้าไปล่าสัตว์ป่าทุ่งใหญ่ มีรอบคอบรัดกุม และขอให้ความมั่นใจว่านายเปรมชัย จะไม่หลุดคดีเจตนาร่วมกันล่าสัตว์ป่า เพราะกังวลว่าจะได้รับโทษเฉพาะลูกน้อง จึงอยากมาขอความมั่นใจเป็นหลัก
นายศศิน กล่าวว่า แต่ขณะที่เรารอจะส่งหนังสือมาหาพล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ หรือ ผบ.ตร. แต่ปรากฎว่า พล.ต.อ.ศรีวราห์ ได้นำส่งสำนวนให้กับอัยการเร็วก่อนกำหนดถึง 10 วันและ แถลงยืนยันว่านายเปรมชัย อยู่ใน 9 ข้อหา จึงขอบคุณว่าตำรวจทำเร็วอย่างไรก็ตาม ยังกังวลอีกว่าในช่วงปลายปีที่อาจจะมีการเลือกตั้งเกิดขึ้น และห่วงการใช้มีอิทธิพลทางการเมือง คนผิดจะใช้เทคนิคกฎหมายจะใช้อะไรที่ทำให้ไม่ถูกดำเนินคดี
“ศรีวราห์” ลั่นเสือดำต้องไม่ตายฟรี
ด้านพล.ต.อ.ศรีวราห์ กล่าวว่า คนไทยทุกคนอยู่ภายใต้กฎหมายไทย จะอ้างว่าไม่รู้กฎหมายไม่ได้ เรื่องนี้ขอให้มั่นใจว่าการทำคดีนี้จะมีความรอบคอบรัดกุม ทั้งนี้ ตามบันทึกการจับกุมสามารถตั้งข้อหาได้คือ มีซากสัตว์ป่าคุ้มครองไว้ โทษจำคุก 4 ปี ปรับ 40,000 บาท แต่ว่าในกรณีที่มีตัวสัตว์อยู่ อย่างนี้จึงจะตั้งข้อหาล่าสัตว์ได้ โดยมีโทษ 5 ปี ปรับ 50,000 บาท แต่กรณีนายเปรมชัยจึงจำเป็นต้องใช้กระบวนการทางนิติวิทยา ศาสตร์พิสูจน์ว่าถูกล่า ถูกชำแหละ ซึ่งในคดีนี้มีร่องรอยกระสุนปืน ร่องรอยการชำแหละ และมีดีเอ็นเอที่พบในมีดและเขียง เนื้อสัตว์ กระดูกสัตว์ ขนสัตว์ ทั้งหมดเป็นเสือดำตัวเดียวกัน
พล.ต.อ.ศรีวราห์ กล่าวว่า ทางเจ้าหน้าที่ต้องรวบรวมหลักฐานทั้งหมดเพื่อยืนยันให้อัยการทราบว่ามีการกระทำผิดเกี่ยวกับการล่าสัตว์เกิดขึ้นจริง ยืนยันว่าเสือดำจะไม่ตายฟรี
อาวุธปืนเป็นของใคร ทะเบียนปืนเป็นของใคร รถ มีด เขียง เอามาจากบ้านคุณเปรมชัย มันเป็นลักษณะแบ่งหน้าที่กันทำ"